Sunday 13 December 2009

สบถ

พักนี้กระพ๊มกับคุณนกยูงเจอแต่เรื่องแปลกๆน่ารำคาญใจแบบวันเว้นวัน
มันเป็นอีหยังหนอฮ่วย...
เรื่องน่ารำคาญใจคราวนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระสงฆ์หลายรูปที่เราประสบพบเจอบนท้องถนนครับ

หมายเหตุ:เรื่องข้างล่างต่อไปนี้ ไม่มีเจตนาจะดูหมิ่นพระศาสนาและผ้าเหลืองแต่อย่างใด
เจตนาหมายจะมาเล่าสู่กันฟังถึงมิตรรักแฟนเพลงเท่านั้นนะครับ

ผมกับคุณนกยูงนั่งรถไปด้วยกันครับ เธอแต่งกายในชุดเรียบร้อยมีเสื้อนอกคลุม
จังหวะหนึ่งนั้น รถผมอยู่ข้างหลังรถกระบะแบบไม่มีแคบคันนึง
บนหลังกระบะคันนั้น มีพระภิกษุนั่งอยู่หลายรูป ด้วยความที่ที่จำกัด บางรูปจึงนั่งหันหน้ามาทางรถผมที่ตามอยู่ข้างหลัง และบางรูปนั่งหันหลังพิงที่ปิดท้าย


เรานั่งคุยหัวเราะเรื่องสะเพเหระกันไปเรื่อย ระหว่างที่ขับตามนั้น...
คุณนกยูงเริ่มสังเกตุว่า พระคณะนั้นที่นั่งอยู่บนกระบะแบบเปิดท้ายข้างหน้านั้น
เหมือนจะพูดถึงเธอกันอยู่...

เธอสังเกตุได้ เพราะพระรูปหนึ่งที่นั่งอยู่ในๆนั้น ชะโงกหน้าออกมาดูทางรถผม
และหันไปยิ้มกับพระรูปข้างๆ พลางพูดและหัวเราะไปด้วย
และพระรูปที่นั่งหันหลังพิงที่ปิดท้าย เหมือนพยายามที่จะหันมามองทางรถเรา
แต่พระรูปที่นั่งหันหน้ามาอีกรูปนั้นห้ามไว้ พร้อมกับกับยิ้มหัวเราะ...สายตาจับจ้องมาที่รถเรา


ในตอนแรกนั้น ผมบอกเธอไปว่า อาจจะไม่ใช่ก็ได้มั้ง
พระคณะนั้นเค้าจะพูดถึงเราสองคนเรื่องอะไรล่ะ อีกอย่างท่านก็เป็นพระ ไม่น่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้นะ
อย่าไงรก็ดี...เอาเป็นว่า ผมจะแซงแล้วกัน
แล้วตอนแซง เราก็จะได้รู้กันเองว่า เราคิดผิดกันหรือเปล่า

ผมเร่งเครื่องแซงขวาขึ้นไป พยายามมองไปที่พระคณะนั้นตลอดว่าจะมีปฏิกริยาอย่างไรบ้าง
สิ่งที่เห็นคือ...พระรูปที่นั่งในๆนั้นชะโงกหน้าออกมายิ้มให้คุณนกยูง
สายตาเป็นประกายด้วยกริยาที่ไม่สำรวม...
สายตาและรอยยิ้มของพระรูปนั้น เป็นอาการของผู้ชายที่มองผู้หญิง...มิใช่พระแต่อย่างใด

ด้วยจิตโมโหในอาการที่ไม่สำรวมของพระ
ผมเผลอสบถออกไปไอ้....

หลังจากตั้งสติได้ ผมรีบพนมมือบอกกล่าวขอขมาพระศาสนาและผ้าเหลืองว่า
ผมขอขมาในสิ่งที่พูดออกไป กระผมไม่ได้มีเจตนาที่จะลบหลู่พระศาสนาและผ้าเหลืองแต่อย่างใด
สิ่งที่ผมต้องการจะปรามาสคืออาการที่ไม่สำรวมเหมาะสมของผู้ชายคนนั้นที่อยู่ในผ้าเหลืองต่างหาก

ในฐานะที่ผมเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศานาของเราเป็นอย่างมาก และมิได้มีเจตนาจะทำให้ศาสนาด่างพร้อมแต่ประการใด
ผมจึงไปปรึกษาผู้รู้ในพันทิพมาครับ ท่านนึงบอกว่า ถึงจะเป็นพระภิกษุทุศีล
เราก็ต้องขอขมา...

คำขอขมาพระรัตนตรัยนะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ(ว่า 3 จบ)สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเตอุกาสะ ทะวารัตเยนะ กะตังสัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเตอุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯกรรมใดที่ข้าพเจ้าได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ตั้งแต่อดีตกาลมา จนถึงปัจจุบัน ด้วยกายหรือวาจาก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่านขอได้โปรดอดโทษแก่ข้าพเจ้านับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

รับทราบและปฏิบัติตามทุกประการด้วยจิตละอายสำนึกผิด
กลัวชีวิตนี้และชีวิตหน้าต้องไปอยู่ในอบายภูมิค้า....

5 comments:

นายต้นกล้า said...

แล้วพวกคนในผ้าเหลืองพวกนั้นจะละอายแก่บาป
ที่แสดงอาการแบบนั้นบ้างมั้ยนะ

Tar la la said...

หากคิดได้ คงไม่แสดงอากัปกิริยาเช่นนั้นตั้งแต่แรกแล้วละคะ คุณต้นกล้า

อ่านแล้วเศร้าใจนะคะคุณลิง
ภายใต้ผ้าเหลือง มีเหตุการณ์เช่นนี้ให้เรารับรู้มากมายเหลือเกิน

♥..myname is blon_dy..♥ said...

เท่าที่อ่านแล้วได้แต่ส่ายหัวค่ะ ยังมีได้อีกเรื่องแบบนี้

สังคมไทยแท้ๆ

Jerrie said...

ทุกสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี
คนมาขอบวชเป็นพระ ถึงจะเป็นคนไม่ดี พระก็ปฎิเสธไม่ให้บวชไม่ได้
เมื่อเข้ามาแล้ว ก็มาทำความเสื่อมเสียให้กับศาสนา
พี่เองก็เคยเจอมากับคัว
สงสัยต้องเอาสูตรของลิงไปใช้บ้าง
เพราะนินทาเอาไว้เยอะอ่ะ

คิก คิก

wawine said...

พระสงฆ์ที่ทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย มีแต่จะเพิ่มปริมาณมากขึ้นทุกวัน

วะวายเป็นคนนึงที่รู้สึกเสื่อมกับเรื่องนี้มากๆ ด่าพระเป็นประจำ บาปกินหัวไปไม่รู้เท่าไหร่แล้วค่ะ

วัดที่บ้านยาย พระเจ้าอาวาสสั่งให้จับแมวใส่กระสอบทุกตัว แล้วมัดถุง และให้คนเอาไปถ่วงน้ำทั้งหมด

แม่มาบอก น้ำตาเราไหลเลย ทำไปได้ยังไง ศีลห้ายังรักษาไว้ไม่ได้ เป็นพระได้ยังไง โอ๊ย พูดแล้วยาวเลย

บ่นเยอะเลย โทษทีนะคะ

แวะมา Merry X'Mas ด้วยค่ะ ขอให้คุณลิงมีความสุขมากๆ นะคะ ^^