Friday 28 August 2009

ปีเสือ ปีมหาชง

ปีหน้าปีเสือ...
ชงอย่างแรงกับปีวอกอย่างดิ๊นฮร่ะ...

นึกไปถึงปีเสือเมื่อ12ปีที่แล้ว
โอ้โหพี่น้องคะ ซวยอะไรฉไนขนาดค่ะ ซวยทั้งปีทั้งเรื่องเงิน เรื่องงาน เรื่องความรัก
เป็นปีที่ไม่มีอะไรดีเลยว่างั้นเถอะ
12ปีที่แล้ว...ยังเป็นปีที่ผมมีน้อง1เป็นเพื่อน
มาวันนี้ เออว่ะ...12ปีแล้ว
เร็วเนอะ...
เราสองคนรู้จักกันมา12ปีแล้ว และวันนี้เราก็ยังเป็เนพื่อนที่ดีต่อกัน

ปีเสือเมื่อ12ปีที่แล้ว
ผองเพื่อนกระพ๊มที่เกิดปีลิง ความซวยมาเยือนกันแบบยกเข่ง
น้อง1 โดนแฟนเก่าของเธอทิ้งไปมีคนอื่น
เพื่อนตอง....โดนแฟนนางงามมันทิ้ง
และสามวันถัดมาเจอขโมยขึ้นบ้าน โดนต่อยหน้าบวมไปเป็นเดือน
เจ๊เก๋เพื่อนสาว โดนแฟนทิ้งอกหักยับเยินยับเยินกินไม่ได้นอนไม่หลับไปเป็นเดือนเช่นกัน
ส่วนผม แฟนทิ้งไปมีคนอื่น พร้องทิ้งหนี้หลายเงินอยู่ไว้ให้
ยังไม่พอ...ผมโดนแฟนใหม่ของเธอนั้นรังควาญทุกเช้าเย็น มันตามผมไปทุกที่ตั้งแต่ที่บ้าน ที่มหาลัย
เรื่องนี้...เอวังด้วยการที่มันลามปามโทรมาด่าแม่ของผม และต้องออกไปต่อยกันนั่นล่ะ

ปีเสือปีหน้านี้ ผมดูดวงตัวเองแล้ว คงเป็นปีซวยมหาซวย เพราะราหูเข้าอีกตะหาก
เอาเถอะ...ดิ๊นทำใจไว้แล้วล่ะฟร่ะค่ะ..
อดทนเวลาที่ฝนพรำ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เนอะๆๆๆ

Tuesday 25 August 2009

สัมภาษณ์งาน: อะ อะไรนะครับ

ง้า...
อ.ที่ผ่านมา...
มีกระทาชายผมยาวสลวยสวยเก๋ ท่าทางอรชรอ้อนแอ้น(กว่ากูตั้งสามเท่า)มาสมัครงานค่ะ
และอิช้านก็ดั๊นนนน บ้าเรียกมันมาสัมภาษณ์
แวบแรกที่เห็นหน้า...โอร้ววววว
แขนอันเรียบเนียนตึงไร้ขนท่อนนั้น แค่เจอมดกัดก็หักกังกร๊อบแกร๊บแล้วมั้งคะนั่น

ในสภาพที่เลือกมากไม่ได้ เพราะที่แผนกรีบใช้คนก่อนงานจะท่วมไปกองเต็มบ่อส้วมซะก่อน
ผมจึงไม่มีตัวเลือกมากนัก ประกอบกับนายคนนี้recommendจากน้องโดนัทคนงาม
เพื่อนหนูเองค่ะพี่....

ถึงเวลานัดสัมภาษณ์ แผนกบุคคลากรของเรานั้น ยื่นผลประเมินattitude test สมรรถภาพทางเพศtest อะไรต่อมิอะไรให้ผมเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาตัดสินใจ
ผมขยี้ตามองscoreของหนุ่งสะโอดสะองค์นายนี้นั้น
โอ้โหน้องคะ ฝีมือในการทำtestวัดภูมิปัญญา เทียบเท่าเจ๊เก๊กซิ้ม ณ สำนักง้อไบ๊
นี่มึงเอาฝ่าตรีนประมวลผลวิเคราะห์ใช่มั้ยคะ มาได้ยังไงเนี่ย 2.5แต้มจาก20คะแนน

ผมสูดหายใจลึกๆเข้าไปสามเฮือก เอาวะ มันอาจจะดีก็ได้ (ไม่มีอไรจะเสียแล้วค่ะ)
มันต้องมีข้อดีซักข้อในคะแนน2.5นั่นสิฟระ เช่นว่า มันอาจจะหายใจทางผิวหนังได้ก็ได้นะคะ...

ณ ห้องสัมภาษณ์....
ผมนั่งลง น้องJ dock(คล้ายๆJ rock)คนนั้น มองด้วยสายตาสงสัยว่าอิช้านคือภารโรงหรือเปล่า
หลังจากรับไหว้แบบเสียไม่ได้ของJ Dockมาแล้วนั้น
ผมเริ่มขั้นตอนพิธี
อ่ะ แนะนำตัวคร่าวๆหน่อยนะคะ
อีนังJ Dockทำหน้าต้องการส้วมด่วนมาแต่ไกลระยะ300เมตร
(นี่กรูเผลอถามว่าแม่มึงแต่งงานมากี่รอบไปแล้วหรือเปล่าคะนั่น) อะ อะ อะไรนะครับ
น้องแนะนำนำตัวเองคร่าวๆหน่อยค่ะ
(ทำหน้าอยากลาไปคลอดลูกประกอบ) ผะ ผะ ผมชะชะชื่อ สมช๋อย หอยกระเด้งครับ
เงียบบบ....
(นี่กรูเผลอถามคำถามวิทยาศาสตร์โอลิมปิคไปรึป่าวคะนี่) แค่นี้เหรอคะ แนะนำตัวเองไงคะ
อะอะเอ่อ ยังไงครับ
ก็เช่นว่าน้องเรียนอะไรมา ประวัติการทำงาน แต่งงานมาแล้วกี่หน อะไรแบบนี้ไงคะ
(สูดหายใจเข้าไปยาวยืด กระดาษกระเดิดปลิวว่อน)
ผะผะผมทำงานเป็นSub contractorที่บ.ผลิตชิ้นส่วนคอมแห่งหนึ่งมาปีแล้วครับ
หน้าที่คือpackagingครับ
ยะยะอยากหางานใหม่เพราะตำแหน่งsubมันไม่มั่นคง และไม่มีทีท่าว่าจะได้รับการบรรจุเป็นพนง.ประจำแต่อย่างไรครับ
เงียบ.....
อ้อค่ะ เข้าใจค่ะ เอ่อ ตำแหน่งงานcheckerนี่มันหนักมากเลยนะคะ ทำงานสารพัดสุดไซร้เขตแดนของGeneral bae
ทั้งแบกหาม ทำงานกลางแดด ทำงานกลางคืนเลิกตีสามตสี่ ทั้งต้องพาแม่บ้านนายไปซื้อปลาทู ฯลฯอะไรแบบนั้น
จะไหวไหมคะ???

(เงียบไปประมาณสามชาติหย่อนๆ พร้อมปัดผมทรงJ dockปัดฝุ่นที่พื้นประกอบ)
ตะต้องไหวครับ
ไหวยังไงคะ ทำงานใต้ความกดดันได้ใช่ไหมคะ
(ทำหน้าเหวอ) กดดันยังไงครับ???
สิ้นคำตอบนั้น ดิ๊นตั้งท่าจะตะโกนขอกางเกงในแม่บ้านที่เดินผ่านไปมาซับเหงื่อซะให้มันรู้แล้วรู้รอด
เออ....มันต้องมีDNAตัวไหนซักตัวที่ทำให้ไอ้หนุ่มนี่เข้าใกล้คำว่าเอาไหนบ้างสิน่า

ด้วยอิทธิพลราหูมั้งคะ อิช้านในสภาพเสียสติ ตัดสินใจรายงานพี่หัวหน้า
พี่คะ หนูว่าน้องคนนี้ใช้ได้ค่ะ อย่างน้อยแกก็พูดภาษาไทยได้นะคะ เชิญมาสัมภาษณ์รอบสองค่ะ
ชม.ถัดมา.....พี่หัวหน้าผู้หลงกลนางมารลิ่งลิ๊งผู้บำเพ็ญตบะ ณ ยอดเขาไกรเลิศมาสิบพรรษาเศษยอมมาสัมภาษณ์

ด้วยnatureของพี่หัวหน้าที่แกเป็นผู้ช๊ายยผู้ชายอ่ะครับ คนที่ไม่รู้จักแกอาจจะมองว่าแกpushหรือดุดันเกินเหตุแม้แต่ในเวลาที่แกพูดธรรมดา
พี่หัวหน้ามาพร้อมเสียงเข้มสุดๆของแก
ไหน...แนะนำตัวซิ
อะ เอ่อ ผมชื่อสมม๋อย น้องสมหมายคะครับ
และแล้วน้องJ dockก็เข้าสู่stepเทพ...เงียบบบบบครองพิภพค่ะพี่น้อง
อะไรเนี่ย พี่บอกให้แนะนำตัวไงครับ
อะเอ่อ แนะนำตัวยังไงครับ (ไอ้เปรตตตคะ กรูลุ้นมึงปวดรูตับจริงๆค่ะ จำได้ว่าเมื่อชม.ที่แล้ว กรูบอกมึงไปแล้วนี่ค้า ฮ่วยยยย)
ก็บอกมา ว่าทำงานที่ไหนอะไรยังไงไงครับ!!!(เสียงเข้มสุดๆ)

ด้วยความที่ผมเอาใจช่วยไอ้หนุ่มซินตึ๊งนี่สุดกีบ อิช้านทำอะไรไม่ได้นอกจากท่องนะโมพุทโธ สุรามาเป็นระยะๆพร้อมกรวดน้ำส่งความกล้าให้อย่างเงียบๆ
จังหวะนั้น...ผมเห็น...

มือไอ้หนุ่มนั่น บีบผ้าเช็ดหน้าที่ไม่รู้ไปควักมาจากไหนดังกรอบบบบบ กรอบบบบบบบบบบ
กรอบบบบบบบ กรอบบบบบบบบบบบบบบ เหงื่อกาฬงี้แตกพลั่กๆเต็มมือ
เอ้า ว่าไงครับ ทำงานอะไรมา เอ้า บอกข้อดีของตัวเองมาซิ
สิ้นเสียงเข้มๆของนายกระพ๊มนั้น....

ไอ้หนุ่มนั่น...มือสั่นครับ....

อิช้านได้แต่ท่องพุทโธธัมโมแผ่เมตตาให้มันในใจ
แกเอ๊ย...เจอแค่นี้ยังมือสั่น กลับบ้านไปให้นมลูกไปเห๊อะไป๊
ถ้าเจอเวอร์ชั่นพี่หัวหน้าอาละวาดของจริง มึงไม่เครียดม้ามระเบิดไปก่อนเรอะฟระคะ
ประกันไม่coverอีกตะหากด้วยนะคะ แล้วอิช้านจะรับผิดชอบมึงยางง๊ายยย โอร้วววว
แล้วนี่กรูไปตกตัวอะไรมาฟระคะ มึงเป็นผู้ชายนะค้า กูยังห้าวกว่ามึงเลยค้า ฮ่วยยยยยยยยยยยย อ๊า

เหตุการณ์ในวันนั้น จบลงด้วยการที่พี่หัวหน้าจะตัดสินใจอีกทีตอนที่เห็นผลLogic testซึ่งต้องมาทำในวันต่อไปครับ
วันต่อมา...น้องJ dockโทรมาบอกน้องโดนัทคนงามว่า
ไม่มาแล้ว กลัวพี่หัวหน้ามาก ไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย

- -“
ดิ๊นเหนื่อยใจกะมึงมากค่ะ

Saturday 22 August 2009

ดวงแข็งโคตรV9

ขอหน่อยเห๊อะ
ดวงเอ็งแข็งจริง นุกนิกV9
มีพี่เป็นกองเชียร์อย่างเหนียวแน่น ปากเหวมาประมาณ153ครั้ง แม่งก็ยังไม่ออก....
เอ็งเฮงมาก พี่นี้ไซร้ขอคารวะ...

วีคนี้เงโชว์ได้ห่วยแตกบรมบรรลัยมากค่ะน้อง ในขณะที่นิวตี้โชว์ดีกว่าเอ็งทุกกระบวนท่า
ก่อนประกาศผล ยังพูดกับคุณนกยูงอยู่เลย..นุกนิกควรตกเหวไปได้จริงๆแล้ววีคนี้
เอ็งก็ยังดั๊นนนนนนนตะเกียกตะกายจากช่องนรกขึ้นมาจนได้
เอ็งทำบุญมาด้วยอะไรฟระคะ??

เสียดายนิวตี้ครับ โชว์ดีกว่าเยอะ ดันซวยมายืนกับซานิ ไม่งั้นก็ได้ตุ๊กตาทองไปแร้น

ปล.นุกนิกจ๊ะ พี่ก็ยังจะตามเชียร์เอ็งไปสุดขอบนรกเช่นเคย
ปวดตับปวดไส้แสบรูทวารแค่ไหน พี่ก็ยังจะเชียร์ต่อไปให้เครื่องในมันเจ๊งบ๊งกันไปข้าง
ไอ้เด็กบ้าบอติงต๊องง๊องแง๊งเต้นห่วยแอคติ้งงีด
ปล.2 แอบรักครูไผ่ เซ็กซี่ได้ทุกกระบวนท่า

Sunday 16 August 2009

ตัวซวยมาแร้นค้า...

ฤ ดิ๊นนั๊นไซร้คือตัวซวยแห่ง2000ปีประวัติศาสตร์มนุษยชาติคะ????
แรงรักใคร่พิศวาสบาดจิตของอิช้านนั้นไซร้ มันมีรัศมีของการสาปแช่งเจือปนอยู่ทุกอณู??

อ.ที่แล้วค่ะ ขณะที่ดิ๊นนั่งชมAFอย่างเลื่อนลอย...
พยายามบังคับจิตไม่ให้ตัวเองตกหลุมรักซานิและกุญแจซอล ก่อนที่สองสาวเจ้าจะด่าวดิ้นไปก่อนวัยอันควร
อุ๊ยตายแร้น....อีตี๋หน้าเดียวอ๊อฟV2นี่ดูไปดูมามันน่ารักดีนี่หว่า
ไอ้ตี๋นี่หน้าตามันธรรมดา แต่มันก็มีสเน่ห์แบบบ้านๆของมันดีเนอะ


เป็นไงล่ะค้าท่านผู้โชมมมมมมมมมมมม
หลังจากโดนมนต์แช่งของอิช้านเข้าไปประมาณสามวันเศษเอง...
ไอ้ตี๋มันโดนฟรีคิกอาบยาพิษด้วยแรงพิศวาสบาดจิตรของอิช้านออกนอกจักรวาลเทศบาลAFไปแร้นค้า...

โฮกกกกก....
นี่ความรักสิเน่หาของอิช้าน มันเป็นมนต์ดำปี๋ปิดแช่งชักหักกระดูกได้ผลแรงกว่าวูดูอีกเรอะค้า
กรูมันเป็นตัวซวย ตัวอัปมงคล ตัวอัปปรีย์ใช่มั้ยค้า อ๊า พระเจ้า

ท้ายนี้....อ๊อฟจ๊ะ พี่สาวคนสวยคนนี้ผิดเองล่ะจ้ะที่เอ็งตกเหวก่อนวัยอันควรไปซะแร้น
RIP V2 เอ็งจะอยู่ในใจพี่เสมอนาวแอน์ฟอร์เอฟเวอร์จากนี้และตลอดไป (หมายความว่า มึงจะซวยตลอดไปเช่นกันค่ะ)
555555

ปล.เชียร์นุกนิกV9ปวดตับปวดไส้แสบรูตูดแสบทรวงทวารเหลือเกินค่ะพี่น้อง
อภิมหาราชินีปากเหวค่ะ เพราะมีอิชั้นเป็นกองเชียร์สินะคะ

Wednesday 12 August 2009

สัมภาษณ์งาน: โย่ว โย่ว สมัครงานคร้าบ

วันนี้ได้เรียนรู้สัจธรรมเพิ่มมาข้อหนึ่งจากการสัมภาษณ์งาน
ชีวิต..ไม่มีอะไรเที่ยง และอย่าประมาทมันทีเดียวเชียว



ผมกำลังมองหาชายไทยใจงามมาร่วมงานกับทีมเราครับ
สำหรับผมแล้ว..วุฒิการศึกษา ประสบการณ์หรืออะไรที่มันประดับบ่าคุณมาก็แล้วแต่ ไม่มีผลกับผมเลยครับ
ถึงคุณจะเคยขายเฉาก๊วยหรือล้างส้วมห้องน้ำมาก่อน ผมไม่แคร์..
เรื่องพวกนี้มันอยู่ที่ใจอย่างเดียวเลยนะจ๊ะ



ในการนัดสัมภาษณ์ครั้งนี้ มีcandidateสองคน
กระทาชายนายแรกนั้น ผมจัดให้ประโยคข้างล่างนี้เป็นอีกหนึ่งตำนานที่ผมจะไม่ลืมเลยชั่วชีวิตผม
อิชั้น: ไหนเล่าประสบการณ์ทำงานให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ
กระทาชายนายนั้น: อ้อครับ ผมเรียนจบม๋อยหมองยูนิเวอร์ซิตี้ หลังจากทำงานpart timeได้หนึ่งปี
ผมโคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรซวยครับ จับได้ใบแดง เลยต้องไปเป็นทหาร นี่ก็พึ่งปลดประจำการออกมาครับ

อิช้าน : ทำตาปริบๆ

กระทาชายนายแรกนั้น กระพ๊มไม่ขอเลือก เพราะฮีถามถึงเรื่องเงินเดือนที่จะได้ประมาณ5รอบได้
เวลาไปสัมภาษณ์งาน...ถามคำถามสร้างสรรค์กว่านี้ก็ได้นะคะพี่น้องงงง



ที่อยากพูดถึงคือผู้สมัครอีกคนครับ
คนหลังนี้...ฮีมาพร้อมผมทรงSkin head สร้อยเงินเส้นเบ้อเริ่ม และกางเกงเดฟรุ่นlacking
ผมคิด..เฮ้ย ผู้ชายคนนี้หน้าตาท่าทางดีกว่าจะมาเป็นcheckerงานเทศาภิบาลแห่งชาตินี้นะนั่น
ทำไมเค้ามาสมัครตำแหน่งนี้หนอ??


ดิ๊น: ไหนเล่าประสบการณ์ทำงานให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ
ชาย2: เรียนจบมา ผมทำพวกanimationครับ
จากนั้นก็ไปออกเทปที่XS(นามสมมุติ) แต่ไม่รุ่ง เพราะต้านพวกMP3 เทปผีซีดีเถื่อนไม่ไหว
แฮ่ม ผมเป็นแรปเปอร์ของวงด้วยนะครับ
ดิ๊น: ในห้วงของความนิ่งงงงัน นี่HRบริษัทอิช้านมันมีปัญหาอะไรกับการrecruitหรือเปล่าหนอ
อ้อค่ะ ดีค่ะ แล้วนี่ก่อนหน้านี้ไปทำอะไรมาอะคะ แล้วทำไมถึงคิดถึงเปลี่ยนงานล่ะคะ
ชาย2: ผมเป็นดีเจอยู่แถวรัชก๋อมอ่ะครับ อยากเปลี่ยนงานมาลองพวกงานประจำดูบ้าง
เพราะเวลาของผมมันไม่ตรงกับใครหลายคน อย่างแฟนงี้ผมก็ไม่มีเวลาให้ อะไรแบบนั้นน่ะครับ

ดิ๊น: อิช้านนั้นไซร้ ในสภาพล้ำลายฟูมปาก อ้อ งานล่าสุดของดีตาเหม่งนี่มันเป็นดีเจมาเว้ยเห้ย
เอาวะ รับๆไปก็ได้มั้ง ตอนไปเกะกันคงสนุกพิลึกถ55
แล้วนี่เรียกเงินเดือนเท่าไหร่คะ
ชาย2: ผมขอแค่7000ก็พอแล้วครับ ผมต้องใช้เงิน
อ้อ ผมอยากจะให้พี่ดูอะไรหน่อยครับ
พี่เหม่งแกหันไปควักอะไรซักอย่างในกระเป๋าออกมา

มันคืออัลบั้มสมัยที่พี่เหม่งแกออกเทปนั่นล่ะครับ
ในปกแกดูเป็นหนุ่มฮิปฮอปแบบเข้มขลัง ใส่แว่นกันแดด หมวกแร๊พโย่ กางเกงตัวใหญ่เท่าโจงกระเบน
ผมหยิบอัลบั้มแกขึ้นมาดู...
พร้อมเงยหน้าขึ้นมามองพี่เหม่ง...
ในแวบนั้น...ผมสัมผัสได้ว่าห้วงความคิดแกประหวัดไปถึงสมัยที่แกใช้ความรักทั้งหมดทั้งมวลในชีวิตแกร้องเพลงอันแสนสุขใจนั่นเอง...


ผมเองไม่รู้จะช่วยพี่แกยังไงดี หน่วยก้านแกไม่เหมาะกับงานแบบนี้จริงๆล่ะนะครับ
ชีวิตอย่าประมาท มีขึ้นมีลงเสมอ
วันนี้ เราแสนสุขใจกับชีวิต...วันหน้าอาจไม่มีแม้แต่ตัวเราเหลือเลยก็ได้

Monday 10 August 2009

กล่องแห่งความลับ...

เอาเรื่องนี้ก่อน....
เกิดเหตุการณ์ขำเหนือธรรมชาติขึ้นที่ตู้เย็นบ้านอิช้านค่ะพี่น้อง
ใช่ค่ะ...เหตุเกิดที่”ตู้เย็น” อันเป็นสถานที่แช่กุ้งหอยปูปลาผักดองปลาเค็มกางเกงในผ้าอนามัยฯลฯทุกสิ่งสรรพที่คุณเห็นว่าจะสามารถใส่เข้าไปได้นั่นล่ะค่ะ


วันนี้ เดินเข้าบ้านมา ตั้งท่าเปิดตู้เย็นจะเอาน้ำตามเคย
ตาเหลือบไปเห็น...ตามรูป เอ....ไอ้นั่นมันอีหยัง อิช้านอ้าปากค้าง


ด้วยอารามสงสัย ซูมมมมมมเข้าไป



สามวินาทีถัดไป....ผมหัวเราะก๊ากพร้อมตะโกนถามน้องยุ้ย

หล่อลลลลลลลล น่านมานนนอาร๊ายยยยยยยยย


ใช่ครับ...ทุกท่านที่แวะเวียนกันมาอ่านตาไม่ฝาด
มันคือกล่องตู้เซฟที่คุณๆท่านๆเอาไว้เก็บเงินเพชรพลอยขนเพชรอะไรที่ถือว่าสำคัญสุดกีบนั่นแหละ
หลังตั้งสติได้....
เอ....ไอ้หีบสมบัติพัสถานที่ถูกอัญเชิญมาอยู่ในตู้เย็นแห่งนี้ มันมีอะไรอยู่หนอ??
ตอนแรก...ผมเดา คงไม่พ้นเทลมีมิสทีนสุดไฮโซของน้องยุ้ยแน่ๆ
นานๆที ไอ้ขวดอะไรประหลาดๆก็จะมาโผล่ที่ตู้เย็นของเราอย่างกลมเลืนเคียงข้างปลาทูซึ้งนั้น...


อ้า.....ปริศนาไขกระจ่างแร้น พระแม่หัวเราะคิกคักมาแต่ไกล
ข้างในใส่อะไรไว้อ่ะแม่??
แม่หัวเราะร่า แม่ใส่ชอคกุเระสุดไฮโซแพงระยับเอาไว้
ผมอ้าปากค้าง ห๊า แม่เอาชอคโกแลตใส่ในเซฟ???แถมแช่ตู้เย็นเรอะ???นี่มันภูมิปัญญาชาวบ้านประเภทไหนกัน???

แม่บอก แม่ยั๊วะมาก
วันนั้นแม่อุตส่าห์ไปซื้อชอคกุเระสุดไฮโซนี้มาตั้งหลายร้อย
ผ่านไปครึ่งวัน...ครึ่งกล่องชอคกุเระที่ว่านี้ หายไปพร้อมกับสายลมและแสงแดด
เบื้องต้นสำหนวดสันนิษฐานว่า...คนงานที่บ้านเอาไปแกล้มปูปลาร้าไปแร้น


ด้วยความเสียดายของปนยั๊วะ
แม่เลยจับชอคกุเระที่เหลือใส่เซฟซะเลย
แต่เอ...มันต้อวแช่เย็น
ด้วยระบบบูรณาการ...แม่เลยจับชอคโกแลตใส่เซฟและแช่ตู้เย็นซะเลย
5555555555555555

Monday 3 August 2009

ด่อยเด้งแอร์ไลน์

ความจริงไม่อยากเขียนเรื่องนี้...
ตั้งแต่ผมขึ้นเครื่องบินมาก็หลายปี...
ไม่ว่าจะได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาจากสารทิศแห่งหนไหนว่าสายการบินด๋อยเด้งแห่งชาติของเรานั้นไซร้...
เลือกปฏิบัติบ้างล่ะ double standardบ้างล่ะ treatคนไทยยังกะเราเช่าแผ่นดินโลกนี้อยู่บ้างล่ะ
ผมจะเถียงหัวชนฝา..
เฮ้ย ไม่จริง ผมว่าโคกอีด๋อยแอร์ไลน์ของเราบริการดีจะตาย ผมไปไหนมาไหนด้วยสายการบินนี้ได้รับการบริการฉันท์มิตรในยามที่ต้องอยู่ไกลบ้านเสมอมา


ยังจำได้..ตอนที่ยังเรียนหนังสืออยู่ แม่ๆยายๆแอร์รุ่นหม้อปั้นดินเผาก่อนวิวัฒนาการมนุษยชาติถามไถ่กระพ๊มด้วยความห่วงใยร้องไห้ทำไมคะ มาเรียนหนังสือเหรอคะ อ๋อเนี่ยลูกชายก็มาเรียนเหมือนกัน มาไกลบ้านก็แบบนี้ล่ะเนอะฯลฯ
ผมอยากบอกว่า..ในเที่ยวบินเหว่หว้าต้องจากบ้านมาไกลหลายสิบโลแบบนั้น
มิตรภาพฉันท์พี่น้องคนไทยนั้น มันช่วยได้เยอะ...

ตอนไปส่งน้องยุ้ย เราสองคนกระเหรี่ยงอพยพพี่น้องก็ได้แอร์ๆทั้งหลายบนเครื่องช่วยชีวิตหมูหยองหมูกรอบกุนเชียงทั้งหลายแหล่ที่แบกไปไว้
พี่แอร์ยิ้มให้อย่างใจดี...กุนเชียงหมูหยองทำมึนๆแล้วหิ้วเดินผ่านไปเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวนะคะ เค้าไม่ตรวจเยอะหรอก

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา...โมโหอย่างแรงค่ะพี่น้อง
เหตุการณ์เกิดที่ด๋อยด๋อยแอร์ไลน์สาขาใหญ่...
ผมไปออกตั๋วล่วงหน้าชนิดที่ต้องเรียกว่าตั้งแต่กระบือโหก สามชาติก่อนจะบินนั่นล่ะครับ
ที่ต้องไปออกตั๋วก่อน เพราะว่าตั๋วโปรโมชั่นนี้ deadlineคือ31กค.
ทั้งนี้ คุณนกยูงได้จัดแจงไปขอเลื่อนให้ที่สนามบิน เพราะมันติดขัดหลายอย่างที่จะจ่ายให้ทันเวลาได้


ตอนแรกคุณนกยูงได้คำตอบว่า โอเคทางแอร์ไลน์จะเลื่อนให้เราเป็นวันที่11 สค.
หากแต่เมือวันพฤหัส ผมได้รับโทรศัพท์จากทางสายการบินว่า ไม่สามารถให้deadlineได้ขนาดนั้น
แต่ทางสายการบินจะผ่อนผันให้เป็น5โมงเย็นของวันที่1ครับ

วันนี้ผมไปจ่ายเงินและออกตั๋วตามที่ทางสายการบินแจ้งไว้
ไปติดต่อเคาน์เตอร์8 สิ่งที่ผมได้รับคือ...
โปรโมชั่นหมดเขตแล้วนะคะ คุณต้องจ่ายเพิ่มอีก6000บาทเป็นตั๋วfull fareค่ะ
อ้าว แต่ทางคุณโทรมาบอกผมเองนะครับ ว่าวันนี้ต่างหากที่เป็นวันสุดท้าย
อ๋อ ทางspace controlที่โทรหาคุณ เค้าคงไม่ทราบเรื่องdeadlineจ่ายตั๋วน่ะค่ะ
ยังไงก็ไม่ได้ค่ะ หรือไม่คุณก็ลองโทรหาcall centerดูนะคะในกรณีนี้


ผมยืนงง ห๊า?คุณให้ผมที่เป็นลูกค้าโทรหาและดำเนินเรื่องเองเรอะ???????
ผมฉุนปรี๊ด เฮ้ย..ได้ไง นี่มึงไล่ลูกค้าให้ไปหาทางเดินหน้าต่อเองเรอะ
ในขณะที่พนง.ท่านนั้นปฏิเสธความรับผิดชอบสถานเดียว เพียงแต่อ้างว่าแผนกโน้นเค้าไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ
ผมเริ่มเสียงดัง อ้าว แล้วแผนกโน้นมันไม่ใช่บริษัทเดียวกับคุณเรอะฟระครับ??
ก็เป็นทางคุณนั่นล่ะ ที่บอกให้ผมมาจ่ายเงินวันนี้ ไม่งั้นผมก็มาจ่ายเมื่อวานไปแล้วสิ
แผนกโน้นเค้าไม่ทราบเรื่องนี่คะ บลา บลา บลาฯลฯ


ในสภาวะที่อีป้าโสดสนิมเกาะนั่นพล่ามแต่คำว่าแผนกโน้นค่ะ แผนกโน้น(ที่เป็นบริษัทเดียวกันนั่นล่ะ)
ผมเริ่มอับจนหนทาง ฮ่วยยย...ได้ไงวะ อยู่ดีๆให้มาเสียเพิ่มอีกตั้ง6000ทั้งๆทีไม่ใช่ความผิดเราซักกะนิด
มือไวเท่าความคิด...ผมโทรหาคุณนกยูงครับ

มจ.ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยยยยย.....
คุณนกยูงเมียกระพ๊มผู้แสนน่ารัก...คิดหาหนทางดำเนินการให้ทันที
ขณะที่พนง.อีกสายการบินหนึ่งซึ่งผมเป็นลูกค้า ได้แต่พล่ามคำเหล่านี้..
ลูกค้าไม่เข้าใจเรื่องระบบและกฏ เนี่ยพี่บอกไปหลายครั้งแล้วนะ (แล้วมึงฟังกูหรือเปล่า ว่าบ.มึงนั่นล่ะโทรมาบอกกูเองว่าวันนี้ได้)
แผนกโน้นเค้าไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ
ยังไงก็ไม่ได้ค่ะ บลาบลา ฯลฯ
อ้อ แล้วช่วยหลบไปก่อนได้ไหมคะ ดิชั้นจะได้บริการลูกค้าท่านต่อไปค่ะ (ทั้งๆที่เคสกูมึงยังทำไม่จบอ่ะนะ อีหอกคะ)

คุณนกยูงหายไปครึ่งชม.และโทรกลับมาบอกว่าเธอได้คุยกับsupervisorของทางโคกอีด๋อยแอร์ไลน์แห่งนี้แล้ว
จากการสืบสวน เค้าก็ยอมรับว่าทางทีมเค้าก็ผิด และเค้ากำลังปรึกษาผู้ใหญ่แก้ใขไห้ล่ะแห้ง
แห้งทำใจร่มๆนะ อย่าไปโวยวาย นั่งรอมจ.ก่อนนะคะ


ผมทำตามที่คุณนกยูงสั่ง โอเค ยุบหนอพองหนอ และตั้งท่าจะเดินออกไปทานข้าวฆ่าเวลา
ก่อนจะไปนั้นผมกังวลว่า เออทางทีมนั้นเค้าอาจจะติดต่อไปยังอีป้าโสดนิรันดรนั้นก็ได้ เผื่อเธอหาผมไม่เจอ ผมกลั้นใจเดินไปบอกเธอก่อนไปว่า
พี่ครับงั้นผมไปทานข้าวก่อน ฝากเรื่องด้วยนะครับ
อ๋อค่ะ ดิฉันทานแล้วค่ะ (กรูจะชวนมึงไปทานข้าวเมื่อชะนีสูญพันธุ์จากโลกนี้ไปเท่านั้นค่ะ) (บริการดีเริ่ดเลยนะคะ มึงฟังรึเปล่าฟระคะว่ากรูพูดอาร๊ายยย)


ผมเดินหัวเสียออกไปทานข้าว ระหว่างที่นั่งทานข้าวแบบเซ็งๆอยู่นั้น
มีสายเข้าจากด๋อยเด้งแอร์ไลน์นั่นล่ะครับ
ใจความนั้นคือ มันเป็นความผิดของทางทีมเค้าเอง ซึ่งเค้าจะauthorizeให้ผมเป็นกรณีพิเศษที่จะออกตั๋วได้ครับผม
แต่ทั้งนี้...

ขอผมพูดกับticketerคนนั้นหน่อยได้ไหมครับ??
อ้าวแล้วทำไมคุณไม่โทรไปคุยกันเองที่สนง.ล่ะคร๊า อ๊า ดิ๊นกรี๊ดสุดเสียงด้วยความงง
อ๋อ ผมกลัวโทรไม่ติดน่ะครับ
หลังจากสลบเหมือดด้วยความโมโหไปอีกสามนาทีถ้วน
ดิ๊นกลั้นใจ(อีกรอบ) โอเคค่ะ รอซักครู่นะคะ เดี๋ยวรอดิ๊นพิฆาตเกี๊ยวกุ้งแสนอร่อยอันนี้ให้มลายหายสิ้นไปก่อน แล้วจะวิ่งกลับไปที่สนง.ใหญ่ให้คุณค่ะ
ฮ่วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


ผมว่ามันตลกสิ้นดีเลยฟร่ะครับ
ไอ้บริษัทการบินแห่งชาติที่โด่งดังเด้งไปทั่วโลกแบบนี้นั้น
มันทำงาน ไม่คุยกันและไม่ร่วมมือกันเรอะฟระครับ?????
มันทำงานแบบcustomer self-serviceแบบนี้เรอะฟระครับ??

งานนี้นะครับ ถ้าผมไม่ได้คุณนกยูง ผมคงต้องเอวังด้วยการที่ผมต้องจ่ายตั๋วในราคาเต็มซึ่งมันไม่ใช่ความผิดผมเลยซักกะนิด
เอวังด้วยการที่พนง.ไม่ช่วยอะไรผมซักนิด ทั้งๆที่มันคือหน้าที่
เอวังด้วยการที่ผมเสียความรู้สึกกับด๋อยเด้งแอร์ไลน์นี้ไปอีกนาน

โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ปล.ขอบคุณคุณนกยูงนะครับงานนี้ เมียเราเก่งที่สุดในสามโลก
ปล.2 ทำcomplaintไปแล้วครับ สิ่งที่จะได้ตอบกลับมาคงไม่พ้นความเงียบหรือขอโทษค่ะ ทางเราจะปรับปรงการบริการให้ดีขึ้นๆๆๆไปเรื่อยๆภายในชาติหน้าค่ะ เทือกนั้น