Thursday 11 September 2008

ใคร?

เมื่อวานนี้ เกิดเรื่องระทวยขวัญขึ้นที่ทำงานครับผม


ระทึกและมึนปานไหน ลองอ่านกันดูนะครับ







ที่บ.ผมนั้น มีลักษณะเป็นโรงงานครับ ดังนั้น มันเป็นปรกติที่จะมีรถเข้าออกและคนมากหน้าหลายตาเดินท่อมๆอยู่บริเวณโรงงาน คนขับรถสิบล้อเอย คนงานเอย อะไรเอย



อาณาบริเวณมันก็ใหญ่โตพอควรอยู่ มันจึงเป็นเรื่องปรกติที่พวกเราจะเห็นใครก็ไม่รู้นั่ง นอนหรือนั่งทานข้าวอยู่ตรงพุ่มไม้โน้นบ้าง ตรงนี้บ้างอ่ะครับ


บางรายพาครอบครัวลูกเด็กเล้กแดงมาตั้งเต๊นท์นอนกันเป็นเรื่องเป็นราวก็มี หรือ วันดีคืนดี ก็มีคนงานก่อสร้างถนนเอาพวกโครงเหล็กมาทำงานโดยอาศัยร่มไม้ใบหญ้าในบ.ผมก็มีครับ





ดังนั้น...คนแปลกหน้าจึงเป็นเรื่องปรกติสำหรับพวกเราครับ ไม่ว่าใครมาจากไหน พวกเราๆก็จะคิดกันว่า มันคงไม่ใช่ใครที่ไหน...


เค้าคงมาทำอะไรที่บ.เราซักอย่างละน่า...





เมื่อวานนี้ตอนเช้า ผมเดินไปเดินมาในตึก และพบผู้ชายคนนึงแต่งตัวภูมิฐาน ผูกเน็คไทด์ เสื้อเชิ้ตดูเนี๊ยบ เดินผ่านไปทางห้องโถงข้างล่างครับ


ในใจก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่า เค้าคงเป็นแขกจากบ.ไหนมาประชุมอะไรซักอย่างล่ะมั้ง





ผมตั้งท่าจะเดินไปยังโรงอาหาร ทางเดินนั้นมันจะมีประตูกั้นน่ะครับ ผมเห็นผู้ชายคนนั้นเดินวนไปวนมาแถวนั้นอยู่


ผมไม่ได้คิดอะไรอีกตามเคย นึกว่าเค้าคงหลงทิศหลงทางล่ะมั้ง


ผู้ชายคนนั้น เมื่อเห็นผมเดินมา จึงเปิดประตูให้ผม พร้อมยิ้มให้ผมหนึ่งที อย่างมีน้ำใจไมตรี





ผมเดินไปทานข้าวเช้า โดยที่ไม่ได้คิดอะไรเลยครับ...





ผ่านมาตอนพักเที่ยง ตามปรกติแล้ว พวกเราพนง.แผนกต่างๆ จะทิ้งข้าวของกันเกลื่อนกลาดบนโต๊ะ และเดินกันไปทานข้าว โดยที่ไม่ได้ล๊อคห้องหรืออย่างใดครับ เพราะว่า ไว้ใจ มันก็มีแค่พวกเรากันแค่นี้


ดังนั้น ตอนเที่ยงนะครับ แต่ละห้องนี้จะเปิดห้องกันหรา มือถือเอย กระเป๋าเงินเอย กุยแจรถเอย วางอยู่บนโต๊ะ เห็นเป็นเรื่องปรกติ


ผมอยู่ที่นี่มาปีกว่าจวบจนวาระนี้ที่กำลังจะโดนซิวซิบ เห็นภาพนี้จนชินตาครับ มาแรกๆผมก็งง เออ..คนที่นี่เค้าไม่กลัวของหายกันหรือไงฟระ??





ปรกติแล้วในช่วงพักเที่ยง ผมก็จะทิ้งขอระเนระนาดไว้บนโต๊ะหรือในเก๊ะโดยที่ไม่ได้ล๊อคไว้แบบนี้ล่ะครับ


หากแต่เมื่อวานนี้นั้น ผมเกิดนึกเฮี้ยนอะไรขึ้นมาไม่ทราบได้ ผมกวาดของมีค่าทุกอย่างที่มี เอาไปทานข้าวตอนพักเที่ยงครับผม


ก่อนจะออกจากที่บ.นั้น ผู้ชายคนนั้น นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ทานกาแฟอย่างสบายใจอยู่ที่โซฟาตรงทางออก...



กลับมาถึงที่ทำงานตอนบ่ายๆ กลุ่มป้าๆแม่บ้านกำลังจับกลุ่มเมาท์อะไรซักอย่างอยู่อย่างเมามันส์ ด้วยวิญญาณและสปิริตประธานสมาคมแม่บ้าน...


กระพ๊มจึงรี่เข้าไปสอบถามทันใด ได้ใจความว่า...



ตอนพักเที่ยงน่ะค่ะคุณลิง วันนี้ทุกแผนกไม่มีใครอยู่ที่โต๊ะเลยล่ะค่ะ ออกไปทานข้าวโดยที่ไม่ได้ล๊อคห้องกันเหมือนเดิม


พอดีป้าไปทานข้าวเที่ยงสาย ป้าเลยเดินวนๆเก็บของอยู่ระหว่างชั้นหนึ่งและชั้นสองค่ะ



ตอนนั้นเลิกงาน15นาทีแล้ว ป้าแวะที่ชั้นหนึ่ง เพื่อที่จะแวะเข้าไปเก็บถ้วยน้ำชาที่แผนกบุคคล ป้าเห็นผู้ชายคนนึงหน้าตาดี๊ดี แต่งตัวดีเชียว เดินวนไปวนมาอยู่ในแผนกนั้น


ป้าก็นึกว่าเค้าเป็นแขกของคุณเต่าเมเนเจอร์ ป้าเลยถามเค้าไปว่า มาหาคุณหอยหลอด ณ รูถึดทือรึเปล่าคะ เดี๋ยวป้าจะโทรตามให้ แกเพิ่งเดินไปทานข้าวเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ



ผู้ชายคนนั้นตอบป้าอย่างสุภาพมากๆเลยค่ะ ว่า ไม่เป็นไรครับ งั้นเดี๋ยวผมรอข้างนอก พร้อมเดินออกไปแบบไม่รีบร้อนอะไร



ป้าก็ไม่ได้สงสัยอะไรค่ะ ก็เก็บถ้วยเก็บอะไรไปตามเรื่อง


ทีนี้ ป้าเล็กค่ะ แกก็ยังไม่ได้ไปทานข้าวเหมือนกัน จังหวะนั้น แกกำลังยืนล้างจานอยู่ที่ครัวชั้นสอง


ป้าเล็กเห็นผู้ชายคนนี้ล่ะค่ะ เดินขึ้นมาจากชั้นหนึ่ง และเดินเลี้ยวเข้าไปในแผนกเซลล์ ป้าเล็กก็นึกเช่นกันว่าเป็นแขกนาย เพราะว่าท่าทางดูดี และแต่งตัวดีเหลือเกิน



แต่ป้าเล็กแกก็สังหรณ์ใจค่ะ เอ...ในห้องเซลล์นั้น ไม่มีใครอยู่ซักคนเลยนี่นา แล้วเค้ามาหาใคร?


ป้าเล็กเลยเดินตามเข้าไปดู เห็นผู้ชายคนนั้น เดินมองตามโต๊ะต่างๆที่มีมือถือเอย คอมเอย กุญแจรถเอยวางอยู่บนโต๊ะเต็มไปหมด



ป้าเล็กแกสงสัยตะหงิดๆแกเลยเดินเข้าไปถาม คุณคะมาหาใคร


ผู้ชายคนนั้นสะดุ้งเล็กน้อย พร้อมกับตอบว่าไม่มีอะไรครับ พอดีผมมาหาแผนกโลจิสติกส์อยู่ชั้นสาม แต่เลี้ยวผิดที่นิดหน่อย ขอบคุณนะครับ


แกได้ฟังดังนั้น เออ..เค้ารู้ด้วยว่าแผนกโลจิสติกส์อยู่ชั้นสาม เค้าคงเป็นลูกค้าหรือใครที่มาติดต่องานจริงๆล่ะมั้ง


ป้าเล็กจึงไม่ได้สนใจตามผู้ชายคนนั้นต่อแต่ประการใด และเห็นผู้ชายคนนั้นเดินขึ้นบันไดไปชั้นสาม...



ผมตกใจเฮ้ย ผู้ชายคนนี้รู้ลู่ทางที่บ.เราเป็นอย่างดี มันรู้ด้วยว่า แผนกไหนอยู่ที่ไหน และที่สำคัญ มันใจเย็นมากๆ.....



ป้าเผื่อนเล่าต่อ ทีนี้นะคะ ป้าไปฟังจากไอ้เอกที่แผนกคุณลิงมาล่ะค่ะ พอดีมันรีบไปทานข้าวและกลับมาเร็ว (มรึงรีบกลับมาดูหนังโป๊ช่ายม๊ายยไอ้เอก ฮ่วย - -")


มันเดินเข้ามาที่แผนกคุณลิงค่ะ ด้วยความที่ห้องปิดไฟมืด แต่ไม่ได้ล๊อคประตู มันคงไม่คิดว่ามีใครอยู่ มันจึงไม่ได้ดูอะไรเลยเปิดประตูเข้ามาเลย

เอกที่แอบหลับอยู่ในมุมมืดนั้น สะดุ้งตื่นและถามว่า พี่มาหาใครคับ

ไอ้บ้านั่นหน้าซีดไปเลย มันตอบว่า อ้อ มาหาหัวหน้าแผนกโลจิสติกส์ครับ เรื่องงาน ไม่อยู่กันใช่ไหมครับเนี่ย

ไม่อยู่ครับพี่ ไปทานข้าวกันหมด พี่จะให้ผมโทรตามให้ไหมครับ

อ้อๆไม่เป็นไร ว่าแต่พี่มาหาใครครับ เอ่อ พี่จำชื่อไม่ได้ มันอยู่ในนามบัตรน่ะ งั้นเดี๋ยวพี่มาใหม่นะ


ทั่นผู้ชมเดาเรื่องออกแล้วใช่ไหมครับ ว่าผู้ชายท่าทางดูดีคนนั้นมันเป็นใคร


ใช่แล้วครับ มันเป็น"ขโมย"



ป้ายังเล่าต่อ คุณลิงรู้ไหมคะ ก่อนหน้าที่มันจะไปแผนกคุณลิงน่ะ มันไปแวะที่แผนกข้างๆมาก่อนแล้วนะคะ


ตอนนั้น พี่วิทย์แกอยู่ในห้องแกแบบมืดๆ แกเห็นผู้ชายคนนี้ล่ะคะ เดินเข้ามาในห้อง


ด้วยความที่เค้าแต่งตัวดีมาก แกเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรคิดว่เป็นใครมาส่งของอีกเช่นเคย


ที่ไหนได้ มันใจเย็นมากๆเลยค่ะ มันค่อยๆเดินดูทีละโต๊ะค่ะ มีโต๊ะนึงโชคร้ายมาก เค้าวางมือถือและกุญแจรถไว้บนโต๊ะ


มารู้ทีหลังกันว่าหาย เพราะว่าเจ้าตัวกลับมาแล้วหาไม่เจอค่ะ ก็วิ่งวุ่นกันใหญ่เลยค่ะ ไอ้มือถือน่ะไม่เท่าไหร่ แต่กุญแจรถสิคะ โอย...ป้าไม่อยากจะคิด



ทีนี้ ไอ้เอก เอะใจขึ้นมาค่ะ องค์อะไรไม่รู้ลง มันเลยโทรไปถามน้าแดงที่ป้อมว่า ผู้ชายคนนั้นที่ใส่เสื้อชมพูน่ะมันใครครับน้า เค้าเข้ามาที่ห้องผมทั้งๆทีปิดประตูอ่ะครับ

น้าแดงบอกว่า เฮ้ย ตั้งแต่เช้ามา น้ายังไม่เห็นใครแต่งตัวและท่าทางแบบนี้เข้ามาเลยนะ

ทันใดนั้น น้าแดงเห็นผู้ชายคนนั้นเดินอย่างใจเย็นผ่านป้อมยามออกไป เอกสารใบออกอะไรก็ไม่ยอมยื่นให้

น้าแดงเลยตั้งท่าจะวิ่งตาม..

พอมันเห็นน่าแดงปุ๊บมันรีบวิ่งไปขึ้นรถเลยค่ะ บนรถนั้นมีผู้ชายอีกคนนั่งรออยู่ที่คนขับ

น้าแดงเลยวิ่งตามออกไป มันรีบบึ่งหนีไปเลยค่ะ


ที่สำคัญนะคะ มันขับฮอนด้ารุ่นใหม่ด้วยนะคะคุณลิง เสียดายน้าแดงจดทะเบียนมันไว้ไม่ทัน เพราะไกลเกิน



ผมฟังแล้ว อึ้ง ทึ่ง เสียวครับผม


โอ้โห โจรสมัยนี้ มันขับฮอนด้ารุ่นใหม่ด้วย แถมแต่งตัวดี และยังใจเย็นมากๆๆๆๆ


ที่สำคัญ มันรู้ที่ตั้งของแผนกต่างๆที่บ. เป็นอย่างดี...มันรู้ได้ยังไง?



มันเป็นใครฟระครับ?


ไอ้เอกคอนเฟิร์มว่ามันไม่เคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้มาก่อนเลย ดังนั้น มันไม่น่าจะใช่คนที่เคยมาติดต่องานกับเรา



นี่ยังดีนะครับ มันได้ไปแค่มือถือและกุญแจรถเปล่าๆ นี่ถ้าน้าแดงไม่ตามออกไปดู ไม่อยากจะคิดเลยว่า อะไรจะเกิดขึ้น? รถหายนี่พูดไม่ออกเลยนะครับ



ที่สำคัญคือ มันเข้ามาได้ยังไง? เพราะเวลาคนจะเข้าออกที่ป้อมยามจะมีเอกสารให้แสดงตัวและเซ็นต์เข้าออกครับ

นี่ยังดีนะครับที่มันมาแค่ขโมยของ..


แล้วถ้าเกิดมันมาทำอะไรมากกว่านี้เช่นทำร้ายร่างกายหรืออะไร มันจะขนาดไหนเนอะ



เอ้า อ่านแล้วระวังตัวกันนะครับผม อย่าทิ้งของมีค่าไว้ที่โต๊ะนะครับ ระหว่างที่คุณไม่อยู่โต๊ะ อย่างน้อยก็ล๊อคซะนะครับ


เพราะโจรสมัยนี้มันน่ากลัวจริงๆ แต่ตัวดี แถมมาเนียนๆอีกตะหาก...






9 comments:

wawine said...

อย่างงี้ต้องระวังตัวกันมากขึ้นค่ะ ต้องเก็บของดีๆ

ที่ออฟฟิศก้อเคยของหายบ่อยช่วงนึงเหมือนกัน แต่คาดว่าเป็นคนในออฟฟิศเนี่ยแหละ พักหลังต้องเก็บของและล็อคลิ้นชักตลอด

natjaoka said...

^^____________^^

นั่นสิเนอะ รู้ดีขนาดนี้ คนในเป็นใจอ๊ะป่าวคะ หุๆๆ

ยังไงก็ต้องระวังตัวให้ดีดีเนอะ ที่ทำงานแนทก็พอๆ กันเลยค่ะ วางของกันแบบไม่ระวังอะ

plah_hey said...

แวะมาทักทายเฉยๆๆ มะรู้จะเม้นท์อะไร กะลังเซร็งล่ะ พี่ลิง

violet_ladybird said...

ไม่เก็บของเข้าลิ้นชักเหมือนกันจ๊ะ วางไว้อย่างสบายใจเพราะไม่ค่อยมีแขกมาออฟฟิศเท่าไหร่ ... แต่อ่านแล้ว สงสัยจะต้องระวังมากขึ้น

Anonymous said...

ออฟฟิศเค้ามีคนเข้าออกตลอดเวลา


((ใช่สิ ก็เป็นที่ออกกำลังกายนี่หว่า))



เลยต้องระวังเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่ปกติ
พัชก็เก็บของที่เกือบจะมีค่าไว้ใต้เคาร์เตอร์ทำงานล่ะค่ะ


แต่ลิ้นชักเงินรายได้ของออฟฟิศ ไม่เคยลืมล็อค
เพราะไม่อยากต้องมานั่งทำงานใช้หนี้ -_-"


แต่จะว่าไปก็โชคดีนะคะ ที่มันได้ไปแค่นั้น
ยังดีที่พี่แม่บ้าน คอยวนเวียนเฝ้าที่เฝ้าทางให้แบบนี้



+++ ^____________________________^ +++

~ p r i m ~ said...

ตกลง

มันไม่ได้อะไรไปชิมิ๊

หรือต้องย้อนไปอ่านอีกรอบ


ยาวเกิ๊น ลิงเอ๊ย!!!

^^

ระวังไว้หน่อยก็ดีน๊า ไว้ใจใครไม่ได้สมัยนี้

zz_good_day_zz said...

แย่ๆๆๆ แบบนี้ต้องระวังให้มากนะลิง

อ่อ ลืมเม้าเมื่อคืนก่อนของคืนก่อนโน้นนน

ฝันว่าลิงไปเรียนต่อที่บริสเบน อะ งงเลย

สบายดีใช่ปะ

mud_zzz said...

พี่ลิงต้องระวังนะค่ะ

คนสมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ

ปล.พี่ลิงเป็นคนแรกที่เรียกพันธุพะโล้ว่า"เทอร์เรีย"

มีแต่คนว่าพะโล้เป้นพุดเด้นท้างน้าน

เวลาใครมาถามนู๋นุ๋จะบอกว่าพะโล้อ่ะ"หมาวัด"

เต่านา said...

อุ้ย ต้องรีบกินขนมในลิ้นชักให้หมด