ที่ทำงานตอนนี้มีตำแหน่งว่างอยู่1ตำแหน่งครับ...
ตั้งแต่อิช้านจำความได้...มันโสดสนิมเกาะไร้ชายใดมาป้วนเปี้ยนได้หลายเพลาแร้น
ดิ๊นนั้นขอยกตำแหน่งอาถรรพ์พิมพ์นิยมให้ไปโลด เอาไปเลยค่ะพี่น้อง...
ใช่แล้ว...มันคือตำแหน่งcheckerเจ้าเก่าที่อิช้านเฝ้าเวียนวนหาผู้เคราะห์ร้ายมาเป็นผีเฝ้าหลุมประจำตำแหน่งนั่นเองค้า...
ก็ไม่ทราบว่าตำแหน่งcheckerเนี่ยมีผีแม่มายมาเกาะสิงอยู่ในjob descriptionหรืออย่างไร
รับชายใดมาประจำตำแหน่งแล้วไซร้..ฮีนั้นมีอันเป็นประจำเดือนไปไม่เกินสองยามของวันรุ่งขึ้น
แต่ละนายนั้น..เรียกได้ว่าม้วนเสื่อกลับบ้านเก่าด้วยสปีดกระติ๊บกลิ้งตกดอย ตู้มต้าม ตู้มต้าม
เป็นอันที่รู้กันดีว่า สัมภาษณ์งานหาแพะมาประจำตำแหน่งcheckerนั้นเป็นที่เหนื่อยใจกันมากค่ะพี่น้อง
บางทีดิ๊นก็งงค่ะ เอ..นี่กรูกำลังสัมภาษณ์งานหรือจะจับพวกมันไปขายซ่องกันแน่ฟระคะ...
HRนี่ได้ยินข่าวแว่วๆมาว่าต้องไปทำพิธีแห่แมวน้ำ กว่าจะเรียกชายหนุ่มดวงแตกมาสัมภาษณ์ได้แต่ละนาย
ส่วนฝ่ายกระพ๊มเองแล้วไซร้ ต้องสาดน้ำมันพราย ควายธนูอะไรทั้งหลายแหล่ที่พึงจะมีใส่มันเป็นระยะๆทุกทีที่ฮีอยู่คนเดียว
โอมมมม ผัวจงมา ผัวจงมาลงหม้อ...
เดือนก่อน..อิช้านและHRผู้ร่วมขบวนการนั้นไซร้
แทบจะลงทุนเปลื้องผ้า เอายกทรงครอบหัวกระทาชายนายหนึ่ง นามสมมุติว่าห้อยมาร่วมหอลงโลงจนได้
ห้อยทำงานไปได้สองวัน..ฮีmsgมาค่ะพี่น้อง
พี่ครับ ผมไม่สามารถมาทำงานได้แล้ว เพราะแม่ยายผมมดลูกแตกกระทันหัน ต้องนอนรพ.ไปอีกร่วม300ปี ไหนจะต้องอยู่ช่วยโปรเจ็คท์บริจาคฟอสซิลแม่ยายอีก
ผมจึงต้องลาออกครับ..ขอบคุณสำหรับประสปการณ์อันแสนวิเศษครับพี่
อิช้านนั้นไซร้...นั่งอ่านmsgตาละห้อย...
หลังจากรวบรวมสติขึ้นมาได้ ดิ๊นตั้งปณิธานต่อไป...
หากกรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันท์ใด
เมืองกรุงไทยต้องไม่สิ้นคนดวงหักฉันท์นั้น(ล่ะวะ)
สองวันถัดมา..ดิฉันจึงเรียกกระทาชายอีกนายมาร่วมงานแบบไม่ดูห่าเหวอะไรทั้งนั้นค่ะ
มึงมาเถอะค่ะ มึงมาเถอะ
นายหอย(นามสมมุติ) มาทำงานด้วยมาดขะมักเขม้นเข้มขรึมได้อยู่สามวัน
วันที่สี่...ไอ้บ้าหอยโดนผีแม่มายสูบบบบบไปลงส้วมตามคาด
พี่ครับ...ผมต้องกลับนอกโลกด่วนที่สุด เพราะยายผมเสียครับ
ฝ่ายHRกุลีกุจอจะส่งปัจจัยไปช่วยงานอย่างเร่งด่วน
เอ่อ น้องหอยคะ งานเผานี่วันไหนคะ จะได้ส่งพวงหรีดไปถูก
อ้อ..เอ่อ..เอิ่ม ผมยังไม่แน่ใจเลยครับว่าจะเผาวันจันทร์หรืออังคารดี
เอ่อ..คือ..มันเลื่อนกันได้ด้วยเรอะคะน้องงานพวกนี้
ในความพยายามครั้งล่าสุดในการควานหาหนุ่มน้อยมาร่วมงานกับเรานี้
ผมตกลงใจเรียกหนุ่มแบงค์ตกอับซมซานมาจากเทือกเขาหิมพานต์ซักที่มาร่วมงานกับเราแบบไม่เหลียวแลresume
ผมตั้งใจจะเรียกหนุ่มน้อยนายนี้มาทำงานในวันจันทร์ถัดไป
วันถัดมา..นัตตี้เดินมาขอร้อง
เจ๊คะเจ๊ ช่วยรับเพื่อนหนูหน่อยได้ไหมคะ
เพื่อนหนูคนนี้ดวงแตกมากเลยค่ะเจ้และตอนนี้กำลังลำบากมาก ต้องส่งเงินเลี้ยงเมียน้อย เมียรองน้อย เมียน้อยน้อยน้อยฯลฯทุกเดือนค่ะ
ในภาวะที่ผมกำลังจะเรียกไอ้หนุ่มซินตึ๊งนายนั้นมาทำงานมะรอมมะร่อ
ผมไม่สามารถขัดนัตตี้ได้ เส้นสายมันมีจริงในโลกนะคร้าบพี่น้อง...
เออ..เอาวะก็ได้ เรียกเพื่อนเอ็งมาสัมภาษณ์วันนี้เลยนะ
ไอ้หนุ่มนายนั้นมาสัมภาษณ์ในตอนบ่ายของวันนั้นนั่นเองครับ
ผมมองเห็นลักษณะดวงแตกแหกกระจุยในดวงตาของเลียงผาป่านายนี้
โอ้ว....นี่สินะ...
ใครซักคนที่มีลักษณะซวยครบทุกประการที่เราตามหา...
หน้าดำ ตาคล้ำ ตูดปอด ท้องโล...ชายในฝันนี่ใช่เลย...
ผมตัดสินใจไม่เรียกไอ้หนุ่มคนแรกมาทำงาน แต่เรียกเพื่อนนัตตี้นายนี้มาทำงานเลยในวันจันทร์ถัดไปครับ
ผมยังพูดกับลูกน้อง..
เออ ไอ้หนุ่มนายแรก แม่งดวงแตกของจริงว่ะเอ็ง แม่งเกือบได้งานแล้วนะนั่น...
วันจันทร์ผ่านไป...แตร่ง แตร๊งงง แตร๊งงงง
ไอ้หนุ่มนายที่สองดวงระเบิดกว่าหนุ่มนายแรกอีกท่านผู้โชมม...
หลังจากที่ผมยื่นเรื่องไอ้หนุ่มนายที่สองไปให้ทางHRจัดไปตรวจโรคกับกรมปศุสัตว์นั้น...
ท่านนายใหญ่CEOดูresumeไอ้หนุ่มสองแล้วไม่ปลื้มซะงั้น
ยูๆ ไอม่ายอาวคนนี้
โอ้ววมายก๊อดดดดดดด
ซวยอะไรจะขนาดน้านค้า...พนักงานสามร้อยกว่าคน มีมึงคนแรกในประวัติศาสตร์นี่ล่ะคร้าที่ท่านCEOไม่เอา
กระทาชายนายที่สองนี้ผิดหวังอย่างแรงต่อข่าวร้ายนี้ ฮีจึงซมซานกลับบ้านเกิดที่เขาเหลียงซานไปในวันรุ่งขึ้น
นัตตี้เล่าให้ฟังในภายหลังว่า...
เจ้ เจ้รู้ไหมคะ เพื่อนหนูอ่ะกลับบ้านไปเจอซินแสหมอดูแถวบ้าน
หมอดูร้องไอ้หย่าส์...ลื้อนี้เบญจเพสใช่ไหม
อย่างลื้อเนี่ยเค้าเรียกเบญจเพสคูณสี่ ซวยซ้ำซวยซ้อนไม่มีชิ้นดีไปเลยนะอาตี๋
ลื้ออ่ะมีเจ้ากรรมนายเวรชายหญิงยืนประกบข้างเลยน้า
เค้ากะเอาลื้อซี้แหง ห้ามขับรถขับราเป็นอันขาดน้า
เรื่องงานก็อย่าไปหวัง ติดขัดซะไม่มี...
หลังจากนั้นถัดมาอีกไม่กี่วัน ไอ้หนุ่มนายนั้นไปทำบุญที่วัด
หลวงพ่อเดินมาแต่ไกล..พูดเหมือนกับซินแสเป๊ะ
โยมมีเคราะห์หนักมากถึงคราวตายเชียวนะ
เนี่ยมีเจ้ากรรมนายเวรชายหญิงสองคนยืนประกบอยู่นะโยม
โอ้ว....ขนลุก
แล้วหลวงพ่อท่านทำพิธีต่อดวงชะตาให้...
ดวงระเบิดกระจายกระจุยแบบนี้
เอ็งไม่ต้องไปสมัครงานที่ไหนแล้ว
พี่ว่าเอ็งไปบวชเห๊อะ....
เอวังฉะนี้...
Checkerอิช้านก็ยังคงสติลโสดสโมต่อปายค้าพี่น้องงงงงง ฮือ...
Wednesday, 28 October 2009
Tuesday, 20 October 2009
คณิตศาตร์หรรษา
ไม่เคยได้เขียนบอกไปในไดหน้าไหนๆ
ในที่สุด...ปลายประสาทที่ส้นตีนตุ่มไหนของผมซักตุ่ม..
บังคับให้กระพ๊ม...กลับมาทำงานที่เดิมจนได้...
ก็รู้ว่าเสี่ยง อันตราย ทำให้คนรอบตัวเป็นห่วงและไม่สบายใจ และมันไม่คุ้ม...
แต่กระพ๊มต้านทานไอ้อภินิหารประสาทที่ส้นตีนก้อนนั้นที่เรียกว่าหัวใจเรียกร้องไม่ได้ล่ะครับ...
มีเรื่องอยากเล่ามากมายเกี่ยวกับการทำงาน
แต่วันนี้ขอเรื่องนี้ก่อน...
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้...
ดิ๊นขอนิยามการทำงานของสมองฝ่ายตรรกะของดิ๊นว่า "ง่อยหายนะ"ค้า
ไอ้ง่อยหายนะเนี่ย มันเกิดจากเหตุการณ์นี้ท่านผู้โชม...
ด้วยอารามเด็กๆปิดเทอม...
คนขับรถสิบล้อที่ทำงาน เดินโทงเทงมือถือสมุดการบ้านเมียน้อย เอ้ยลูกเข้ามาถามไอ้นุ
คุณนุครับๆ ช่วยลูกผมทำการบ้านเลขหน่อยได้ไหมครับ
เสี่ยวิษนุกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ..
อพิโถ่ถัง...เลขเด็กป.สี่แค่นี้ ใช้สมองแบคทีเรียที่ปลายเล็บคิดก็ออกแล้วคร้าบพี่น้อง
ที่ไหนได้...สิบนาทีต่อมา
นุเดืนหน้ามาเคร่งเครียด...เจ๊คร้าบ ช่วยผมคิดหน่อยคร้าบ...
ผมหัวเราะ เฮ้ยไรวะ เลขเด็กป.สี่แค่นี้คิดไม่ออกเรอะ
ผมรับโจทย์เลขมา...สามวินาทีต่อมา อิช้านเริ่มเหงื่อตกกีบค่ะทั่นผู้โชม...
ฮ่วยแร้น..ไอ้บวกลบเศษส่วนนี่มันเป็นโค้ดลับมนุษย์ต่างดาวสู่แห่งการสร้างยานอวกาศรึป่าวฟระคะนี่
อิช้านคิดไม่เป็นค้า...โฮกกกก...
ด้วยสภาพเหงื่อแตกพลั่กๆ...เกรียติภูมิดาวมหาลัยเอกเพาะพันธุ์น้ำเชื้อวัวควายค้ำอยู่ที่มดลูก
เอาไงดีวะ จะไปบอกมันว่า เฮ้ยกรูก็ไม่รู้ว่ามันคิดยังไง เพราะกูจบป.สี่มา300ปีแร้น และที่สอบที่ผ่านๆมาเครื่องคิดเลขช่วยกรูไว้ท้างน้านนน ก็ไม่ได้อีก....แม่เสียใจแย่ อุตส่าห์ขายนาส่งอิช้านเรียนไปถึงไส
โอร้ววว....
ท่ามกลางความหนาวเหน็บยังกะขั้วโลกของแอร์ที่ทำงาน..
สมองอิช้านคิดสะระตะหาทางออกจากความวิบัติของหน้าตาตัวเองในสังคมโลก ก่อนที่ตะถูกประนามว่าไปซื้อปริญญามาจากคลองถม..
เฮ้ยนุ เดี๋ยวเจ๊มาคิดให้ ไปเข้าห้องน้ำก่อน โอ๊ยยย เลขเด็กป.สี่ ง๊ายยยยง่ายยนะจ๊า ฮะฮะฮ่า
วินาทีนั้น อิช้านคว้าโทรศัพท์พร้อมวิ่งร้อยเมตรไปนอนกอดชักโครก ณ ห้องน้ำหญิง
นาทีฉุกเฉินแบบนี้ น้องหนึ่งผู้เป็นเลิศทางการบัญชี ช่วยเราได้แน่นอนค้าพี่น้อง
นี่เธอๆๆๆ ช่วยด้วย ผมมีปัญหาคณิตศาสตร์โอลิมปิคมาให้เธอช่วยแก้
เอ้า...ตามนี้ โปรดแสดงวิธีทำ
1. 4/5+3/7=??? (ยากชิบหาย)
2.1/3 หาร 4/7=??? (ยากกกชิบหอยยยยยยยยย)
3. 3/4 x 9/8 =???? (ยากชิบหอยยยยมากกกกกกกกก)
น้องหนึ่งฟังแล้วถอนหายใจเฮือกเบ้อเริ่ม...
นี่เธอปัญญาอ่อนหรือเปล่านี่ยะ???ปัญหาแค่นี้ทำไมคิดไม่ได้ ห๊า
ก็มันลืมง้าและมันไม่ค่อยได้ใช้นี่คะ กระพ๊มพยายามกระเสือกกระสนอธิบาย
น้องหนึ่งถอนหายใจอีกสามเฮือก เอ้า..วิธีทำ ตามนี้
หลังจากแปลงร่างเป็นผีบ้าพรายกระซิบกระซาบอะไรไม่รู้อยู่ข้างชักโครกได้สองนาน
ดิ๊นนั้นไซร้...เดินสง่าผ่าเผยออกมาจากส้วมพร้อมคำตอบในมือสมศักดิ์ศรีหัวหน้างาน(ติงต๊อง)ทุกประการค้าพี่น้องประชาโชนนนน...
ไอ้นุ เอ็งเอานี่ไปเลย ถูกหมดชัวร์ รับรองโดยอเวจีสถาบันวิจัยรังนกแห่งชาติเลยนะยะ...
วันนี้...ไอ้นุเดินมาหัวเราะร่า
เจ๊ๆๆ
ข้อ1 เจ๊ทำผิดว่ะ ผมแอบไปให้เพื่อนผมตรวจให้มาแล้ว(มึงเชื่อใจกูมากเลย ห้วยหนองคลองบึง)
เจ๊ลืมหา หรม. (หารร่วมมาก) ก่อนจะเอามาบวกกันนะเจ๊
ผมเถียง เฮ้ยยย แล้วหรม.นี่มันอะไรวะ กูยังไม่รู้เลย(ในใจ)
มันจะผิดได้ไงวะ เจ๊ก็เช็คมา
ระหว่างที่ปากเถียงฉอดๆอยู่นั้น มือผมหาโพยที่น้องหนึ่งให้มาเป็นระวิง
เออว่ะ กรูทำผิดจริงๆนี่หว่า
เพล๊งงงงงงง....
อิช้านอับอายมากคร้าพี่น้องงงงงงงง ฮือ T__T
ในที่สุด...ปลายประสาทที่ส้นตีนตุ่มไหนของผมซักตุ่ม..
บังคับให้กระพ๊ม...กลับมาทำงานที่เดิมจนได้...
ก็รู้ว่าเสี่ยง อันตราย ทำให้คนรอบตัวเป็นห่วงและไม่สบายใจ และมันไม่คุ้ม...
แต่กระพ๊มต้านทานไอ้อภินิหารประสาทที่ส้นตีนก้อนนั้นที่เรียกว่าหัวใจเรียกร้องไม่ได้ล่ะครับ...
มีเรื่องอยากเล่ามากมายเกี่ยวกับการทำงาน
แต่วันนี้ขอเรื่องนี้ก่อน...
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้...
ดิ๊นขอนิยามการทำงานของสมองฝ่ายตรรกะของดิ๊นว่า "ง่อยหายนะ"ค้า
ไอ้ง่อยหายนะเนี่ย มันเกิดจากเหตุการณ์นี้ท่านผู้โชม...
ด้วยอารามเด็กๆปิดเทอม...
คนขับรถสิบล้อที่ทำงาน เดินโทงเทงมือถือสมุดการบ้านเมียน้อย เอ้ยลูกเข้ามาถามไอ้นุ
คุณนุครับๆ ช่วยลูกผมทำการบ้านเลขหน่อยได้ไหมครับ
เสี่ยวิษนุกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ..
อพิโถ่ถัง...เลขเด็กป.สี่แค่นี้ ใช้สมองแบคทีเรียที่ปลายเล็บคิดก็ออกแล้วคร้าบพี่น้อง
ที่ไหนได้...สิบนาทีต่อมา
นุเดืนหน้ามาเคร่งเครียด...เจ๊คร้าบ ช่วยผมคิดหน่อยคร้าบ...
ผมหัวเราะ เฮ้ยไรวะ เลขเด็กป.สี่แค่นี้คิดไม่ออกเรอะ
ผมรับโจทย์เลขมา...สามวินาทีต่อมา อิช้านเริ่มเหงื่อตกกีบค่ะทั่นผู้โชม...
ฮ่วยแร้น..ไอ้บวกลบเศษส่วนนี่มันเป็นโค้ดลับมนุษย์ต่างดาวสู่แห่งการสร้างยานอวกาศรึป่าวฟระคะนี่
อิช้านคิดไม่เป็นค้า...โฮกกกก...
ด้วยสภาพเหงื่อแตกพลั่กๆ...เกรียติภูมิดาวมหาลัยเอกเพาะพันธุ์น้ำเชื้อวัวควายค้ำอยู่ที่มดลูก
เอาไงดีวะ จะไปบอกมันว่า เฮ้ยกรูก็ไม่รู้ว่ามันคิดยังไง เพราะกูจบป.สี่มา300ปีแร้น และที่สอบที่ผ่านๆมาเครื่องคิดเลขช่วยกรูไว้ท้างน้านนน ก็ไม่ได้อีก....แม่เสียใจแย่ อุตส่าห์ขายนาส่งอิช้านเรียนไปถึงไส
โอร้ววว....
ท่ามกลางความหนาวเหน็บยังกะขั้วโลกของแอร์ที่ทำงาน..
สมองอิช้านคิดสะระตะหาทางออกจากความวิบัติของหน้าตาตัวเองในสังคมโลก ก่อนที่ตะถูกประนามว่าไปซื้อปริญญามาจากคลองถม..
เฮ้ยนุ เดี๋ยวเจ๊มาคิดให้ ไปเข้าห้องน้ำก่อน โอ๊ยยย เลขเด็กป.สี่ ง๊ายยยยง่ายยนะจ๊า ฮะฮะฮ่า
วินาทีนั้น อิช้านคว้าโทรศัพท์พร้อมวิ่งร้อยเมตรไปนอนกอดชักโครก ณ ห้องน้ำหญิง
นาทีฉุกเฉินแบบนี้ น้องหนึ่งผู้เป็นเลิศทางการบัญชี ช่วยเราได้แน่นอนค้าพี่น้อง
นี่เธอๆๆๆ ช่วยด้วย ผมมีปัญหาคณิตศาสตร์โอลิมปิคมาให้เธอช่วยแก้
เอ้า...ตามนี้ โปรดแสดงวิธีทำ
1. 4/5+3/7=??? (ยากชิบหาย)
2.1/3 หาร 4/7=??? (ยากกกชิบหอยยยยยยยยย)
3. 3/4 x 9/8 =???? (ยากชิบหอยยยยมากกกกกกกกก)
น้องหนึ่งฟังแล้วถอนหายใจเฮือกเบ้อเริ่ม...
นี่เธอปัญญาอ่อนหรือเปล่านี่ยะ???ปัญหาแค่นี้ทำไมคิดไม่ได้ ห๊า
ก็มันลืมง้าและมันไม่ค่อยได้ใช้นี่คะ กระพ๊มพยายามกระเสือกกระสนอธิบาย
น้องหนึ่งถอนหายใจอีกสามเฮือก เอ้า..วิธีทำ ตามนี้
หลังจากแปลงร่างเป็นผีบ้าพรายกระซิบกระซาบอะไรไม่รู้อยู่ข้างชักโครกได้สองนาน
ดิ๊นนั้นไซร้...เดินสง่าผ่าเผยออกมาจากส้วมพร้อมคำตอบในมือสมศักดิ์ศรีหัวหน้างาน(ติงต๊อง)ทุกประการค้าพี่น้องประชาโชนนนน...
ไอ้นุ เอ็งเอานี่ไปเลย ถูกหมดชัวร์ รับรองโดยอเวจีสถาบันวิจัยรังนกแห่งชาติเลยนะยะ...
วันนี้...ไอ้นุเดินมาหัวเราะร่า
เจ๊ๆๆ
ข้อ1 เจ๊ทำผิดว่ะ ผมแอบไปให้เพื่อนผมตรวจให้มาแล้ว(มึงเชื่อใจกูมากเลย ห้วยหนองคลองบึง)
เจ๊ลืมหา หรม. (หารร่วมมาก) ก่อนจะเอามาบวกกันนะเจ๊
ผมเถียง เฮ้ยยย แล้วหรม.นี่มันอะไรวะ กูยังไม่รู้เลย(ในใจ)
มันจะผิดได้ไงวะ เจ๊ก็เช็คมา
ระหว่างที่ปากเถียงฉอดๆอยู่นั้น มือผมหาโพยที่น้องหนึ่งให้มาเป็นระวิง
เออว่ะ กรูทำผิดจริงๆนี่หว่า
เพล๊งงงงงงง....
อิช้านอับอายมากคร้าพี่น้องงงงงงงง ฮือ T__T
Thursday, 8 October 2009
เสียงเตือน...
ตั้งแต่ก่อนโดนชกมา..ผมไม่เคยสังเกตุเลยว่าตัวเองนั้นมีลางสังหรณ์แปลกๆมาก่อน
มานั่งคิดกลับไป...เฮ้ย...
เราโดนเตือนมาก่อนแล้วนี่หว่า....
ผมพิมพ์ไป...ขนลุกไป
เรื่องพวกนี้มันมีจริงๆด้วย
ก่อนหน้าที่ผมจะโดนต่อยสองสามวันนั้น
คืนหนึ่ง ณ เวลาประมาณห้าทุ่ม...
ผมเตรียมตัวห่มผ้า ปิดไฟนอน...
ขณะที่ลืมตาโพลงในความมืดใต้ผ้าห่มบนเตียงนั้น
ผมพยายามเงี่ยหูฟัง...เสียงบางอย่างลอยมาจากที่ไหนซักที่
และเสียงนั้น...ดังชัดเจนมากเกินกว่าจะหูแว่ว
เสียงนั้น..คือเสียงพระสวดครับ
ผมเงี่ยหูฟังต่อไป...ตาสองข้างยังเบิกโพลง มือนั้นเย็นเฉียบใต้ผ้าห่ม
เฮ้ยเสียงลอยมาจากที่ไหน ณ เวลานี้ และ...เราไม่ได้หูฝาด เพราะเสียงนั้นดังและชัดเจนมาก
บ้านของผมไม่มีใครเปิดเทปพระสวด เอ..หรือเสียงลอยมาจากบ้านข้างๆก็ไม่น่าเป็นไปได้อีก
ขณะที่นอนฟังนั้น...ผมพยายามฟังว่าบทสวดนั้นเป็นบทสวดอะไร สิ่งที่กลัวอย่างแรกเลยคือ
มันคือบทสวดศพหรือเปล่า...
ผมพยายามตั้งใจฟัง ใช้จิตที่มีพยายามรับสาส์นนั้น
เออ...ท่านกำลังสวดให้พรอยู่นี่นา มันไม่ใช่บทสวดอะไรแบบนั้นที่กลัวไว้
ผมนอนฟังต่อไปเป็นเวลาเกือบสิบนาทีได้..เสียงนั้นจึงค่อยๆเงียบลง
หลังจากเสียงเงียบลง..ผมพยายามข่มตานอน เพราะผมมั่นใจว่าเสียงนั้นคือการให้พร
คืนนั้น ผมฝันเห็นพี่เชอที่ทำงาน...
ผมจึงมั่นใจอย่างมาก...เออ สงสัยพี่ช.ดวงตก
ผมรีบไปตือนพี่ช.ด้วยจิตหวังดี เฮ้ยพี่ระวัง
ประกอบกับพี่ช.นั้นไซร้ เจอเหตการณ์เหนือธรรมชาติในคืนเดียวกันนั้นมาด้วย
ผมจึงยิ่งมั่นใจ เออ...มันไม่เกี่ยวอะไรกับเรา
นอกเรื่องนิดนึง..สิ่งที่พี่ช.พบเจอมาคือ เย็นของวันทำงานวันนึง เธอเดินไปเข้าห้องน้ำ
ระหว่างที่เดินไปนั้น เธอรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนเดินตามหลังเธอมา ใกล้ขึ้นเรื่อยๆๆๆ
เมื่อหันหลังกลับไป...ไม่มีใคร
ตอนที่เธอกำลังส่องกระจกอยู่นั้น เธอรู้เห็นเงาดำๆมาชะโงกดูเธอจากด้านหลัง...
และคืนนั้นที่ผมได้ยินเสียงพระสวด...
พี่ป.ที่ทำงานฝันว่า ผีตนนั้นที่เดินตามพี่ช.มาหาในฝัน แถมบอกชื่อเสร็จสรรพ
อ่ะเข้าเรื่องต่อ...
หลังจากที่ผมเตือนพี่ช.ไปแล้ว ผมจึงไม่ได้ติดใจอะไรเรื่องนี้อีก
อีกไม่กี่วันต่อมา..ผมโดนชก...
ในตอนแรกนั้น..ผมยังไม่เห็นความเกี่ยวกันของสองเหตุการณ์นี้
จนมาถึงอีกวัน..ผมกับคุณนกยูงไปหาหมอที่คลีนิกเล็กๆแห่งหนึ่ง
ด้วยความที่คนเยอะ..เราจึงนั่งรอคิวกันอยู่ที่ม้านั่งนอกร้าน
ณ เวลาสามทุ่มครึ่ง...
ผมเงี่ยหูฟัง...
เสียงพระสวด...ลอยมาจากไหน
ผมเงียบไป ตั้งใจค้นที่มาของเสียง
เสียงนั้นดังมาก ผมแน่ใจว่าผมไม่ได้หูฝาดแน่นอน
และเสียงนั้น...ดังกังวาลลอยมาตามลม
ผมนั่งนิ่ง...จิตรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งก่อน...
ใช่แล้ว...เรากำลังถูกเตือน...
อีกสามนาทีถัดมา...
มีผู้ชายคนนึง เนื้อตัวมอมแมม แขนของเขานั้นมีรอยแผลสดเต็มไปทั่ว
ผู้ชายคนนั้น...เดินมากจากไหนไม่รู้
ท่ามกลางคนมากมายที่นั่งรออยู่นอกร้านด้วยกันนั้น...
ผู้ชายคนนั้น...เดินเข้ามายื่นแขนให้ผมและพูดกับผมสองสามประโยค
ผมฟังไม่รู้เรื่องว่าเค้าพูดว่าอะไร เพราะกำลังตกใจ...
หลังจากพูดจบ เค้าคนนั้นเดินจากไป โดยที่ไม่สนใจใครคนอื่นในร้านหรือหันกลับมามองอีกเลย
ผู้ชายคนนั้น...ไม่ใช่ขอทานแน่นอน เพราะเค้าไม่ได้ขอคนอื่น เค้าพุ่งตรงมาที่ผมคนเดียว
คุณนกยูงยังถาม แห้งเค้ามาพูดอะไร...
และครั้งสุดท้าย..
วันอ.ที่ผ่านมา ตอนสิบโมงกว่า...ผมแต่งตัว เตรียมออกไปข้างนอกกับที่บ้าน...
เสียงพระสวด..ดังมาอีกแล้ว
หากแต่คราวนี้ เสียงเบามากๆ แต่ผมก็ยังจับได้...
เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นรู้ไหมครับ..
ตอนออกจากร้านอาหาร
มีผู้ชายคนนึง(อีกแล้ว)เดินเข้ามาต่อว่าผม ว่าผมน่ะอดรถขวางทางเข้าออกบ้านเขา
ไม่รู้หรือไงครับว่าจอดขวาง...
ต่อไปไม่รู้จะมีอีกไหม..แต่ถ้าได้ยินอีกก็ต้องระวังล่ะครับ
ขอกราบสักการะต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวลบนโลกที่คุ้มครอง
มานั่งคิดกลับไป...เฮ้ย...
เราโดนเตือนมาก่อนแล้วนี่หว่า....
ผมพิมพ์ไป...ขนลุกไป
เรื่องพวกนี้มันมีจริงๆด้วย
ก่อนหน้าที่ผมจะโดนต่อยสองสามวันนั้น
คืนหนึ่ง ณ เวลาประมาณห้าทุ่ม...
ผมเตรียมตัวห่มผ้า ปิดไฟนอน...
ขณะที่ลืมตาโพลงในความมืดใต้ผ้าห่มบนเตียงนั้น
ผมพยายามเงี่ยหูฟัง...เสียงบางอย่างลอยมาจากที่ไหนซักที่
และเสียงนั้น...ดังชัดเจนมากเกินกว่าจะหูแว่ว
เสียงนั้น..คือเสียงพระสวดครับ
ผมเงี่ยหูฟังต่อไป...ตาสองข้างยังเบิกโพลง มือนั้นเย็นเฉียบใต้ผ้าห่ม
เฮ้ยเสียงลอยมาจากที่ไหน ณ เวลานี้ และ...เราไม่ได้หูฝาด เพราะเสียงนั้นดังและชัดเจนมาก
บ้านของผมไม่มีใครเปิดเทปพระสวด เอ..หรือเสียงลอยมาจากบ้านข้างๆก็ไม่น่าเป็นไปได้อีก
ขณะที่นอนฟังนั้น...ผมพยายามฟังว่าบทสวดนั้นเป็นบทสวดอะไร สิ่งที่กลัวอย่างแรกเลยคือ
มันคือบทสวดศพหรือเปล่า...
ผมพยายามตั้งใจฟัง ใช้จิตที่มีพยายามรับสาส์นนั้น
เออ...ท่านกำลังสวดให้พรอยู่นี่นา มันไม่ใช่บทสวดอะไรแบบนั้นที่กลัวไว้
ผมนอนฟังต่อไปเป็นเวลาเกือบสิบนาทีได้..เสียงนั้นจึงค่อยๆเงียบลง
หลังจากเสียงเงียบลง..ผมพยายามข่มตานอน เพราะผมมั่นใจว่าเสียงนั้นคือการให้พร
คืนนั้น ผมฝันเห็นพี่เชอที่ทำงาน...
ผมจึงมั่นใจอย่างมาก...เออ สงสัยพี่ช.ดวงตก
ผมรีบไปตือนพี่ช.ด้วยจิตหวังดี เฮ้ยพี่ระวัง
ประกอบกับพี่ช.นั้นไซร้ เจอเหตการณ์เหนือธรรมชาติในคืนเดียวกันนั้นมาด้วย
ผมจึงยิ่งมั่นใจ เออ...มันไม่เกี่ยวอะไรกับเรา
นอกเรื่องนิดนึง..สิ่งที่พี่ช.พบเจอมาคือ เย็นของวันทำงานวันนึง เธอเดินไปเข้าห้องน้ำ
ระหว่างที่เดินไปนั้น เธอรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนเดินตามหลังเธอมา ใกล้ขึ้นเรื่อยๆๆๆ
เมื่อหันหลังกลับไป...ไม่มีใคร
ตอนที่เธอกำลังส่องกระจกอยู่นั้น เธอรู้เห็นเงาดำๆมาชะโงกดูเธอจากด้านหลัง...
และคืนนั้นที่ผมได้ยินเสียงพระสวด...
พี่ป.ที่ทำงานฝันว่า ผีตนนั้นที่เดินตามพี่ช.มาหาในฝัน แถมบอกชื่อเสร็จสรรพ
อ่ะเข้าเรื่องต่อ...
หลังจากที่ผมเตือนพี่ช.ไปแล้ว ผมจึงไม่ได้ติดใจอะไรเรื่องนี้อีก
อีกไม่กี่วันต่อมา..ผมโดนชก...
ในตอนแรกนั้น..ผมยังไม่เห็นความเกี่ยวกันของสองเหตุการณ์นี้
จนมาถึงอีกวัน..ผมกับคุณนกยูงไปหาหมอที่คลีนิกเล็กๆแห่งหนึ่ง
ด้วยความที่คนเยอะ..เราจึงนั่งรอคิวกันอยู่ที่ม้านั่งนอกร้าน
ณ เวลาสามทุ่มครึ่ง...
ผมเงี่ยหูฟัง...
เสียงพระสวด...ลอยมาจากไหน
ผมเงียบไป ตั้งใจค้นที่มาของเสียง
เสียงนั้นดังมาก ผมแน่ใจว่าผมไม่ได้หูฝาดแน่นอน
และเสียงนั้น...ดังกังวาลลอยมาตามลม
ผมนั่งนิ่ง...จิตรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งก่อน...
ใช่แล้ว...เรากำลังถูกเตือน...
อีกสามนาทีถัดมา...
มีผู้ชายคนนึง เนื้อตัวมอมแมม แขนของเขานั้นมีรอยแผลสดเต็มไปทั่ว
ผู้ชายคนนั้น...เดินมากจากไหนไม่รู้
ท่ามกลางคนมากมายที่นั่งรออยู่นอกร้านด้วยกันนั้น...
ผู้ชายคนนั้น...เดินเข้ามายื่นแขนให้ผมและพูดกับผมสองสามประโยค
ผมฟังไม่รู้เรื่องว่าเค้าพูดว่าอะไร เพราะกำลังตกใจ...
หลังจากพูดจบ เค้าคนนั้นเดินจากไป โดยที่ไม่สนใจใครคนอื่นในร้านหรือหันกลับมามองอีกเลย
ผู้ชายคนนั้น...ไม่ใช่ขอทานแน่นอน เพราะเค้าไม่ได้ขอคนอื่น เค้าพุ่งตรงมาที่ผมคนเดียว
คุณนกยูงยังถาม แห้งเค้ามาพูดอะไร...
และครั้งสุดท้าย..
วันอ.ที่ผ่านมา ตอนสิบโมงกว่า...ผมแต่งตัว เตรียมออกไปข้างนอกกับที่บ้าน...
เสียงพระสวด..ดังมาอีกแล้ว
หากแต่คราวนี้ เสียงเบามากๆ แต่ผมก็ยังจับได้...
เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นรู้ไหมครับ..
ตอนออกจากร้านอาหาร
มีผู้ชายคนนึง(อีกแล้ว)เดินเข้ามาต่อว่าผม ว่าผมน่ะอดรถขวางทางเข้าออกบ้านเขา
ไม่รู้หรือไงครับว่าจอดขวาง...
ต่อไปไม่รู้จะมีอีกไหม..แต่ถ้าได้ยินอีกก็ต้องระวังล่ะครับ
ขอกราบสักการะต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวลบนโลกที่คุ้มครอง
เที่ยวละไมไปเชียงใหม่:ตอนgrand opening
หายไปนาน เข้ามาบ้างประปราย อ่านโน่นนี่ไปเรื่อยแต่ไม่มีอารมณ์เขียน
เป็นกันไหมครับ เวลาจิตแตกกับอะไรมากๆ เมื่อสมาธิหลุด มันเลยเขียนหรือเรียบเรียงคำพูดไม่ได้ซักอย่าง
ความจริง เรื่องเล่าเยอะแยะ โหดๆท้างน้านนน...
ไปเชียงใหม่กับคุณนกยูงมาครับ ไปGrand opening ร้านกาแฟไอ้เพื่อนรักมา
ยังไงขอฝากร้านกาแฟไอ้เพื่อนรักไว้ในอ้อมใจพี่น้องชาวเราใครที่ผ่านไปมาด้วยนะครับ
ร้านอยู่ชั้นสองของโครงการthe office+ ตรงข้ามโลตัสหางดง
ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรบินสันครับผม^^
ร้านกาแฟเพื่อนผมนี้ เป็นร้านเล็กๆที่เจ้าของทำด้วยใจรักกาแฟ
กาแฟอร่อยเริ่ด และขอแนะนำเค้กชอคโกแลตHomemadeด้วยนะครับ
อ้อ มีเบียร์ขายด้วยนะเออ...
ภายในร้าน
คุณนกยูง อีกมุมหนึ่งของร้านครับ
ภายนอก
น่านั่งชะมัดยิ่งเฉพาะตอนแดดร่มลมตก
ผู้ร่วมทริป คุณนกยูง ไอ้เพื่อนรักและคุณแฟนมันครับ
เที่ยวนี้ไปพักที่เวียงอะไรซักอย่างเส้นนิมมานฯ (แล้วมึงจะเขียนทำไม ฮ่วยย - -")
Boutique hotelแห่งนี้น่ารักมากๆครับ คุณนกูงติดใจ บอกจะแวะกลับไปอีกแน่นอน^^
เป็นกันไหมครับ เวลาจิตแตกกับอะไรมากๆ เมื่อสมาธิหลุด มันเลยเขียนหรือเรียบเรียงคำพูดไม่ได้ซักอย่าง
ความจริง เรื่องเล่าเยอะแยะ โหดๆท้างน้านนน...
ไปเชียงใหม่กับคุณนกยูงมาครับ ไปGrand opening ร้านกาแฟไอ้เพื่อนรักมา
ยังไงขอฝากร้านกาแฟไอ้เพื่อนรักไว้ในอ้อมใจพี่น้องชาวเราใครที่ผ่านไปมาด้วยนะครับ
ร้านอยู่ชั้นสองของโครงการthe office+ ตรงข้ามโลตัสหางดง
ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรบินสันครับผม^^
ร้านกาแฟเพื่อนผมนี้ เป็นร้านเล็กๆที่เจ้าของทำด้วยใจรักกาแฟ
กาแฟอร่อยเริ่ด และขอแนะนำเค้กชอคโกแลตHomemadeด้วยนะครับ
อ้อ มีเบียร์ขายด้วยนะเออ...
ภายในร้าน
คุณนกยูง อีกมุมหนึ่งของร้านครับ
ภายนอก
น่านั่งชะมัดยิ่งเฉพาะตอนแดดร่มลมตก
ผู้ร่วมทริป คุณนกยูง ไอ้เพื่อนรักและคุณแฟนมันครับ
เที่ยวนี้ไปพักที่เวียงอะไรซักอย่างเส้นนิมมานฯ (แล้วมึงจะเขียนทำไม ฮ่วยย - -")
Boutique hotelแห่งนี้น่ารักมากๆครับ คุณนกูงติดใจ บอกจะแวะกลับไปอีกแน่นอน^^
Subscribe to:
Posts (Atom)