ไปลอยกระทงที่ไหนกันเอ่ยครับผม
สำหรับผมแล้วนั้นไซร้ ไม่ได้ไปไหนไกลเลยครับ ลอยมันที่ริมน้ำ ณ คอนโดอาม่านี่แร้ - -"
ที่ไม่บ่นไม่ได้คือ รถติดชิบหอยยยยเลยนะครับ
ขนาดจากที่ทำงานผม ตั้งอยู่โค้งจักรยานอรหังสัมมา ไกลโพ้นนซะขนาดนั้น
ยังใช้เวลาตั้งสองชม.กว่าแน้ ทั้งๆที่ปรกติ40นาทีก็ถึงแล้ว
วันลอยกระทงแบบนี้ ทำให้ผมนึกไปถึงสมัยยังเรียนอยู่รั้วสีชมพูครับ
ใครเคยได้ยินบ้างไหมครับ เรื่องเล่าขานที่ว่า เป็นแฟนกัน ลอยกระทงที่สระน้ำจุฬาแล้วจะเลิกกันนั้น เป็นตำนานนนนนนนมาตั้งแต่รุ่นทวดป้า
ตำนานเล่าว่า ขลังเมิ่ก รุ่นน้อง(ที่บังอาจมีแฟนก่อนกรู ฮา)หน้าไหนบังอาจไปลอยกับแฟน เจ้าจะต้องมีอันเลิกกันไปภายในสามเดือน
ทั้งนี้ สระน้ำจุฬามีบันไดลงทั้งหมดสี่ด้าน เป็นที่ไม่ชัดเจนว่าบันได้ด้านไหนกันแน่ ที่ลงแล้วจะเลิกกันครับ
เอาใหม่ กล่าวง่ายๆ บันไดมีสี่ด้าน มีด้านนึงที่ลงแล้วเลิก อีกสามด้านปลอดภัยว่างั้นเถอะ
สมัยวันวานยังหวานอยู่ ผมยังเอ๊าะๆเป็นชนะนี(แสร้งว่าเป็นชะนี)ลมปราณแตกซ่านอยู่นั้นไซร้
เพื่อนๆรุ่นผม มีทั้งเชื่อและไม่เชื่อในตำนานนี้ครับ
จำได้เลาๆว่า ไอ้กะทิกับสันต์ คู่รักสุดเหนียวแน่นแห่งรุ่นยุคนั้น หลายคนทายว่ายังไงก็ได้แต่ง
มันไม่เชื่อ เลยลองไปลอยด้วยกันดูโดยหลักการสุ่ม เอาฟระ ไม่รู้บันไดข้างไหน ลงๆมันไปเหอะ
ผลปรากฏว่า สามเดือนถัดมา มันเลิกกันจริงๆด้วยครับ
ไม่ว่าจะเป็นเหตุบังเอิญหรือคำสาปประการใดก็แล้วแต่ การเลิกราของคู่นี้ยิ่งตอกย้ำความขลังของตำนานลอยกระทงที่จุฬาไปกันใหญ่ครับผม
หลังจากเหตุการณ์ของคู่ข้างบนแล้ว ผมและผองเพื่อนแก้ปัญหากันยังไงรู้ไหมครับ
เออ..กันพลาดลงผิดข้าง เอางี้ งั้นเราเดินลงตรงกลางสระ ไม่พึ่งบันไดแล้วกันฟระ (ฮา)
อีกเรื่องที่นึกได้ ผมมักเดินแกร่วไปมารอช่วงหลังงานเลิกอยู่เสมอๆ
เพราะอะไรน่ะเรอะครับ...
เพราะมันเป็นช่วงเวลาแห่งการลดแลกแจกแถมของกินจากนิสิตหน้าตาจิ้มลิ้มทั้งมวลที่มาตั้งร้านขายกันน่ะเซ้(อิช้านรับประกันความสวย)
เรียกภาษามิซาเอะคือ ชิมฟรีน่านเองงงงงงง
มีปีนึงนะครับ กระพ๊มได้ทานฟรีตั้งแต่ส้มตำยันผัดไท
คาถาคือ มึงตั้งท่าควักเงินออกมาจ่ายเหอะ ถ้าไม่ซวยจนเกินไปนัก น้องๆก็จะบอกว่า
ไม่เป็นไรค้า พี่เอาไปเห้ออออ^^ เพราะยังไงกรูก็จะทิ้งแร้นนน555+
อ้อ อันนี้ไม่พูดถึงไม่ได้
ตรงคณะถาปัด เป็นประเพณีที่ทุกปี พวกพี่แกจะต้องยึดลานจอดรถมาตั้งซุ้มบ้านผีสิงครับ
ประมาณว่าคุณจะได้พบกับประสบการณ์น่ากลัวสุดยอดเมิ่กกกก สยองงเมิ่กกกในชั่วชีวิตคุณนี้
ในราคา5บาทเท่าน้านนนนนนนนนนนนน
ปีหนึ่งของการเป็นนิสิตของผม ด้วยความไม่รู้ ผมเลยเอาวะ รู้เค้าหลอกก็เต็มใจให้หลอก 5บาทเอง เอาวะ
ยังไงรู้ไหมครับ เข้าไปถึง เจอรุ่นพี่หน้าม้าถาปัดทั้งหลาย ร้องกรี๊ดดดสุดชีวิตมาทางผมและเพ่อน
พร้อมชี้ บอกว่า น่ากลัวมากกกก น่ากลัววมมากกกก (ฮ่วย ฮา)
ผมเดินออกมาพร้อมกับความปลง เอ กรูไม่เสียดาย5บาท สำหรับความครีเอท5555+
ก็เป็นเรื่องเฮฮากันไปครับ
วันลอยกระทงที่ผมนอนแกร่วอยู่บ้านกับอาม่าแบบนี้ เห็นเด็กๆออกมาลอยกระทงกัน มันเลยทำให้นึกไปถึงวันเวลาสมัยก่อนโน้นนน สนุกดีและคิดถึงครับผม
เอาส่วนหนึ่งของความทรงจำมาเล่าให้ฟังกัน หวังว่าคงไม่เบื่อกันนะครับ^^
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
8 comments:
ที่จุฬาฯ วะวายก้อว่าขลังจริงนะ เค้าก้อมีประสบกาม เอ้ย การณ์ มาก่อน อิอิ
ดังนั้น ถ้าใครอยากเลิกกะแฟน ต้องไปลอยที่นี่แหละ เวิร์คๆ ^^
อ่านแล้วคิดถึงจุฬาจัง
555 นั่นแหละ เหตุผลที่พี่ไม่เคยลอยที่จุฬา
ให้ตายดิ่
ไม่เคยไปงานลอยกระทงที่จุฬาจ้า เคยแต่ไปดูบรรยากาศงานลอยกระทงของเกษตร ... เดินไประแวงไป กลับประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ จะมาระเบิดใส่หน้า
ไม่ชอบเทศกาลงานที่คนเยอะๆ เลยจ้า
ได้ยินมาเหมือนกัน...อยากเคยไปลอง
แต่ตอนละอ่อนนั้น ไม่มีใครให้ไปพิสูจน์ด้วยเลยอ่ะ
แล้วตกลงลิงเอง ได้ควงใครไปลอยมั่งป่ะ
ไปลอยพิสูจน์อาถรรพ์ แล้วมาเล่าให้ฟังด้วยนะ
คิก คิก
อืม ดีนะที่ไม่ไปจุฬา
มีลูกค้าชวนเหมือนกัน
ชะรอยเกิดลงผิดกะได มิได้อกหักหรือนี่ อิอิ
พูดถึงลอยท่าน้ำคอนโดอาม่าก้อปลอดภัยเนอะ
ไม่ต้องรถติดด้วย หุหุ
+++ ^__________________________^ +++
^^_______________^^
ดีน๊า เค้ามะได้เป็นสาวรั้วจามจุรี มะงั้นได้เลิกลาแน่ๆ ถ้ามีแฟนตอนนั้นอ่ะ
เหตุเพราะไม่จำหรอก ว่าด้านไหนดี ด้านไหนอาถรรพ์
หุๆๆๆ
แค่รู้ๆ ..... บ้านอาม่าดีทีซู๊ดดดดดดดดดดด
ขนาดพี่ไซมีแฟนก็ไม่ได้ไปลอยกระทงเหมือนกันจ้า
เพราะคิดว่าคนคงจะเยอะมากๆ
และที่สำคัญก็คือ กลัวเรื่องความปลอดภัยด้วย
พวกเด้กๆ กะพวกคนเมาที่เล่นปะทัดน่ะครับ
อยุ่บ้านนอนกอดกะแฟนดีกว่า อิๆๆๆ
(<^___^>)
Post a Comment